จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

จากแฟนคลับถึงริวทาโร่ (อยากให้ทุกคนอ่าน) // เกี่ยวกับ Risou no musuko// ความแตกต่างของโอซาก้าและโตเกียว//คันไซเบน//ฟิคไดยามะ

ตอนแรกว่าจะไม่เขียนบล็อกแล้วอาทิตย์นี้ เพราะไม่ได้ไปไหน ไม่มีเรื่องเล่าเลย ฮ่าๆๆๆ

คือจริงๆระหว่างวันๆก็มีเรื่องแบบซึ้งๆ? หรือแบบเรื่องที่อยากเขียนอ่ะนะ แต่แบบว่า เข้าใจป่ะ? คือ ถ้านึกเวลานั้น ฟีลตอนนั้น ถ้าไม่เขียนเลย มันก็ลืม จริงมะ? เพราะงั้นเลยลืมไปหมดแล้ว ฮ่าๆ นี่ก็จะบิ๊วใหม่ กร๊ากกก ไม่ใช่อะไรหรอกนะ เพราะแต่ละเรื่องที่อยากเขียนเป็นเป็นเรื่องดี? เลยอยากเขียนเอาไว้เก็บไว้อ่านเองด้วย =w= อิอิ

จะว่าไปอาทิตย์ที่แล้วโดดเรียนสองวันแหละ~ คือขี้เกียจด้วย ฝนตกอ่ะ วันที่สองหิมะก็ตก orz แล้วก็ปวดหัวด้วยไง เลยหยุดเลย แต่อาทิตย์นี้คงต้องทนไปแหละ ไม่อยากวิ่งพละเลย orz 

จริงๆตอนนี้ชีวิตในโรงเรียนก็เฉยๆแล้วนะ คือ มันก็ควรจะชินจริงๆจังๆได้แล้วอ่ะ ว่ามะ? แต่เหตุผลที่ทำให้ไม่อยากไป ก็คือ วิชา ดนตรี (สองชั่วโมง) ชั่วโมงแรกก็ร้องเพลง ก็หนุกดีเพราะมันไม่มีอะไร แต่ชั่วโมงที่สอง เป็นแบบเรียนตีกลองไง มันสานต่อวิชาจังหวะ (ที่เกลียดมาก) ไปอ่ะ ตอนแรกๆก็สนุกดี เพราะว่า ต่างคนต่างไม่มีพื้นฐานเลยไง แต่พอมาอาทิตย์ที่แล้ว ครูแกก็อธิบาย สเตปที่มันยากขึ้น แล้วแบบ เราก็ฟังไม่รู้เรื่องอ่ะ เลยแบบทำไรไม่ทันเลย เพื่อนก็ทำได้กันหมดเลยอ่ะ คือแบบ เข้าใจมั๊ยอ่ะ ยืนตีกลองทั้งชั่วโมง แต่ทำไม่ได้เลย มันรู้สึกยังไง? นั่นแหละ อยากให้จบเร็วๆ

สองก็ วิชา พละ (สองวัน) คือได้วิ่งมันก็สดชื่นดีอ่ะนะ ก็เหนื่อยแหละ แต่ก็โอเคอ่ะ แต่ตอนวอร์มอัพอ่ะ มันเหนื่อยมาก ทั้งๆที่แค่วิ่งรอบสนามสองรอบนะ แต่มันต้องวิ่งไปกับคนอื่นไง มันก็จะวิ่งเร็วกว่ามาราธอนที่เหมือนจ๊อกกิ้งอ่ะ แบบไม่ไหวสุดๆเลย orz

สุดท้าย ก็คือ ขี่จักรยานไปโรงเรียน orz อันนี้สุดตรีนมาก คือ ยังไม่ชินอ่ะ แล้วก็นะ คงจะไม่ชินจนถึงวันกลับ เหอๆ มันเหนื่อยมากอ่ะ เหนื่อยจริงๆ ที่ชินก็คือ ปั่นขึ้นเขาได้แบบทีเดียวแล้ว (คือไม่ต้องหยุดกลางเขาแล้วลากอ่ะ) แต่ยังไงมันก็เหนื่อยมากอยู่ดี หนาวก็หนาว แบบ เฮ้อ orz ถ้าต้องนั่งรถไฟไปโรงเรียน ยังจะโอเคกว่านี้อีก เหอๆ

บ่นๆ แต่ก็ต้องทำใจ orz เดี๋ยวเหลือแค่อาทิตย์หน้าเรียนเต็มอาทิตย์ อาทิตย์ต่อไปก็เรียนสามวัน แล้วก็หยุด แล้วอาทิตย์ถัดไปอีกก็สามวันครึ่งมั้ง แล้วก็สอบ แล้วก็มีงานโรงเรียน แล้วก็ปิดเทอม ทนเอาละกัน~

รู้วันกลับแล้วล่ะ! เจ็บปวด T^T ระหว่างวันที่ 29 มิถุนา - 1 กรกฏา ยาวนาน orz ตอนแรกในตั๋วเครื่องบินเขียนว่า 5 มิถุนา แต่คือเพื่อนๆก็บอกว่า มันแค่ลงไว้เฉยๆ วันกลับจริงๆเขาจะแจ้งอีกที ไรเงี้ย แต่เราก็คิดว่า คงไม่เกินกลางเดือนหรอก คือนะ ถ้าเป็นแบบนั้นมันยังพอแบบ ทนได้อ่ะ ก็เหลืออีกแค่ 3 เดือนกว่า ตอนนี้ก็กลายเป็น 4 เดือนกว่าและ orz 

คือ พอเปิดเมษามา ก็ขึ้นปีสอง ก็เปลี่ยนครู เปลี่ยนนู่นนี่ คือไม่อยากแล้วอ่ะ ตอนแรกก็คิดว่า พอขึ้นปีสอง ก็นั่งๆไปซักสองเดือนก็ได้กลับแล้ว นี่กลายเป็น 3 เดือนเต็ม orz เศร้าอ่ะ แล้วตัวจริงคือ ม.6 แล้วไง ฟีลคือ กุเรียนจบม.ปลายแล้ว แต่ต้องมาเรียนต่ออีกสามสี่เดือน คือ เข้าใจฟีลป้ะ orz นั่นแหละ

แล้วมิถุนาจะมีเรียนว่ายน้ำด้วย แต่คงไม่เรียนอ่ะน ตอนมาแรกๆเจอเรียนว่ายน้ำสามรอบ ก็ไม่ได้เรียน บอกเขาไปว่าไม่มีชุดว่ายน้ำ อีกทั้งจะให้ซื้อชุดว่ายน้ำ เรียนแค่สองสามครั้ง มันก็ใช่เรื่องไรเงี้ย เขาก็เข้าใจ เหอๆ แต่พอสุดท้ายต้องอยู่ มิถุนาทั้งเดือนก็ยังคิดๆอยู่ว่าจะรอดมั๊ย เฮ้อ orz หลายอย่างอ่ะ จริงๆ

แต่ช่างเหอะ สู้ตายโว้ย!

...

อันนี้ฝากไว้ แต่งฟิคอีกแล้ว กร๊ากกกก =w= Daiyama feat.Okaryu? หรือ Okaryu feat.Daiyama? ไม่รู้อ่ะ กร๊าก เป็นภาคต่อของ เทวดาเล่นตลก? ที่ลงไปเมื่อตุลาปีที่แล้ว กร๊ากกกก

คือ แต่งตอนเรียนไม่รู้เรื่องไง แต่งมาเรื่อยๆ เรื่องมันก็แปลกๆ น้ำๆไม่มีเนื้อ แถมหลังๆสดอีก ก็ไม่ได้แก้คำผิด รู้สึกจะเยอะด้วย (แต่เกรียนไม่แก้) กร๊าก ถ้าใครอ่านจะดีใจมาก กร๊ากกก



ฝากไว้อ้อมใจ ขอเชิญดื่มดำไปกับความเรียลลิตี้และความจงเจริญ วะฮ่าฮ่าๆ!!!!

...

อันนี้แปะไว้เฉยๆ เมื่อกี้ไปกินข้าวมา แกงกระหรี่ (มาจังทำ) ฮ่าๆๆๆ อร่อยยย แต่อิ่มมาก orz เดี๋ยวเขียนบล็อกเสร็จต้องออกไปเดินย่อย เดี๋ยวจะอ้วนไปกว่านี้ 


หน้าตาอาจจะดูไม่น่ากินนะ (มั้ง) อันนี้กินเป็นมื้อเย็นเมื่อวานด้วย (แต่เค้าไม่ได้กิน) แล้วมากินอีกทีตอนกลางวัน ก็จะเป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ทำแกงกระหรี่ เพราะคนญี่ปุ่นบอกว่า แกงกระหรี่จะอร่อยที่สุด ก็ต่อเมื่อค้างคืน! แต่เค้าว่ามันก็เหมือนกันอ่ะนะ ฮ่าๆ

แค่นี้แหละเอามาฝากเฉยๆ กร๊าก

...

Risou no musuko! คุยกันหน่อย ฮ่าๆ คงดูกันหมดแล้ว ทุกคนเร็วมาก orz อาทิตย์นี้เป็นตอนที่ 5 สินะ? รึเปล่า ฮ่าๆ คราวนี้เป็นนางพยาบาลสินะ orz 

ก่อนอื่นเห็นบางคน พูดกันว่า ภาวนาๆให้ใส่ทุกครั้ง แต่บางคนอาจจะยังไม่รู้ ก็เลยจะบอกไว้ให้ทุุกคนดีใจมากกว่าเดิม? แต่คงเดาๆกันได้แล้ว เหอๆ เรียวจังจะแต่งหญิงทุกครั้งนะ! ในเว็บเพจของ Risou no musuko เขียนเอาไว้น่ะ 

>理想の息子/日本テレビ< เลื่อนไปตรงกลางที่มีแบนเนอร์แปะอยู่ ตรงรูปหน้าพี่อ้วนแหละ หรือ เข้าที่ スペシャルー>コスチュームチャック ก็จะมีอัพเดตตลอด หุหุ พอละครจบปุ๊บก็อัพเดตทันที เร็วมากเลย ฮ่าๆ เขาเขียนไว้แล้วว่าทุกครั้งจริงๆ เพราะงั้นบุญตากันเนอะ ฮ่าๆ

เราว่าเพจริโซครั้งนี้ทำดีมาก มีอะไรน่าสนใจเยอะแยะ ทั้งบล็อกที่สต๊าฟเขียน ทั้งเกมส์ตอบคำถาม อะไรงี้ ชอบๆ ฮ่าๆ

อย่างคราวนี้ก่อนละครมาก็นั่งเม้ากับมีมี่ มาจัง ว่า เออครั้งนี้เรียวจังมันจะใส่ชุดอะไร ชุดนักเรียนก็ดีนะ? ทำนองนี้ ฮ่าๆ แล้วตอนฉากนั้นมา มันก็ถ่ายตรง คาดิแกนสีชมพูที่เรียวจังใส่ก่อนทั้งชุดใช่ม้า~ ตอนนั้นตกใจอ่ะ นึกว่าใส่ชุดเรียนจริงๆ นึกว่าจะเดาแม่น ฮ่าๆ! ที่ไหนได้ คุณพยาบาล ฮ่าๆๆๆ

ฮาตรงที่ ก่อนเรียวจังจะเดินกลับไปเปลี่ยนชุด ไม่แน่ใจว่ามีใครรู้รึเปล่า พี่อ้วนแกแซวเรียวจังว่า "ซุซูกิ ฉันว่า นายดูกำลังสนุก(ที่ได้แต่งหญิง) อยู่นะ" ตอนนั้นฮามากอ่ะ กร๊ากกกก

แล้วก็พ๊อยน์ครั้งนี้ คู่ต่อสู้เรียวจังเป็น ผู้หญิงใช่มะ? ในเรื่องพี่แกย้ายมาจาก โอซาก้า เราก็คิดและ แม่งคันไซเบนแน่ๆ (สำเนียงคันไซ) แล้วก็จริงด้วย ฮ่าๆ! แต่คิดว่า คงฟังไม่ออกหรอกว่าต่างกันยังไง? แต่ตอนนี้เค้าเป็นคนโอซาก้าเต็มตัวไปแล้ว (วะฮ่าฮ่าๆ!) เลย แยกออก แถมยังรู้ด้วย ว่าพี่แกไม่ใช่คนคันไซ หรือ คนโอซาก้าจริงๆ ฮุฮิ แต่ก็ถือว่าเก่งนะ ฮ่าๆ

แต่ชอบตอนเรียวจังสู้อ่ะ แล้วก็พูดคันไซเบนเลียนแบบ พี่สาวคนนั้นด้วย น่ารักดีอ่ะ ฮ่าๆ!เคยฟังครั้งนึงตอนในคอน (ปวดใจ) พอได้ฟังอีกทีในนี้ก็รู้สึกดี ฮ่าๆ เพราะเราเป็นคนโอซาก้าไปแล้ว เราเลยดีใจที่คนที่เราชอบพูดภาษาโอซาก้ากับเรา (หมายถึงตอนในคอน) ฮ่าๆ (ปวดใจอีกรอบ orz )

สำหรับคนที่ไม่รู้ภาษาญี่ปุ่นนะจ๊ะ คันไซ คือ ภูมิภาคทางตะวันตกของญี่ปุ่น เมืองที่ใหญ่ที่สุด หรือ ศูนย์กลางของคันไซ ก็คือ โอซาก้าจ้า ส่วน คันโต คือ ภูมิภาคตะวันตกของญี่ปุ่น (เปรียบได้กับภาคกลางบ้านเรา) เป็นที่ตั้งของ โตเกียว ซึ่งคันโตเบน (เบนแปลว่า สำเนียง) หรือ โตเกียวเบน ก็คือ ภาษากลางนั่นเอง

แน่นอน แต่ละที่มันก็ต้องมีสำเนียงๆกันไป แต่ที่เด่นที่สุด คือ สำเนียงคันไซเนี่ยแหละ มักเป็นตัวแทนของความตก กับ ความเท่ห์ เพราะคนคันไซจะเป็นคนตลก ใจดี เพราะฉะนั้น ถ้าเจอพวกดาราตลก ก็มักจะพูดคันไซ หรือ พวกคนไม่ดี มีอิทธิพล ก็มักจะพูด คันไซ เป็นอิมเมจ ฮ่าๆ

คันไซที่พูดภาษาประกอบไปด้วย (ที่เรารู้นะ ไม่ได้อ้างอิงข้อมูลทั้งหมด) เกียวโต โกเบ โอซาก้า นาราด้วยรึเปล่าไม่แน่ใจ ถ้านอกจากนี้ ถึงจะคันไซเหมือนกัน ภาษาก็จะต่างไปอีกหน่อย แต่ถ้าพูดถึง คันไซจ๋า หรือ สุดๆจริงๆ ก็คือ โอซาก้าเบน เนี่ยแหละ! คงเคยได้ยิน なんでやねん! (nandeyanen! ทำไมอ้ะ) หรือ すきやねん!(sukiyanen! ชอบนะ) อะไรกันบ้างนะ แฟนญี่ปุ่น ฮ่าๆ อันนี้เป็นคันไซเบนจ้า แต่โกเบ กับเกียวโต ไม่ค่อยพูดหรอก โดยเฉพาะ นันเด๊ะย่าเน็น โอซาก้าอย่างเดียว ฮ่าๆ!

สำหรับแฟนจอร์นี่ แนะนำให้ไปดูระหว่าง kanjani8 กับ วงอื่นๆ จะรู้เลยภาษาจะต่างกัน

ตัวอย่างเช่น ภาษาคันโต : ほんとう!?(hontou!? จริงหรอ?) ภาษาคันไซ : ほんま!?(honma!?) ล่ะ~ ฮ่าๆ หรือรูปธรรมดาของ です (desu) ก็คือ (ดะ) ใช่มั๊ย? ถ้าเป็นที่คันไซ มักจะใช้ (ya) แทน~ 

หรือแม้แต่สำเนียงการพูดคำศัพท์ธรรมดา ตัวอย่างเช่น やばい!(yabai! แย่แล้ว!) ภาษาคันโตจะออกเสียง : ยาไบ้! แล้วคันไซล่ะ? : ย๊าไบ่! เป็นต้น ฮ่าๆๆ น่าสนใจใช่ม้า~

เป็นเสน่ห์ล่ะ จริงๆ~

ทุกวันอังคารจะมีครูพิเศษมาสอนเค้ากับเบ๊ตจัง (เวนล่า) แบบมานั่งคุยกันมากกว่าแลกเปลี่ยนอะไรทำนองนี้ อาทิตย์ก่อนเราก็คุยกันเรื่องโอซาก้า กับ โตเกียว (ปกติคุยกันแต่เรื่องนี้ ฮ่าๆ) คนโอซาก้า (รวมคันไซด้วย) สำหรับคนญี่ปุ่น คือจะเป็นคนใจดี ตลก ยิ้มแย้ม โผงผาง ตามประสาคนตรงๆ อะไรทำนองนี้ และมันก็มีรายการนึง เปรียบเทียบคนโตเกียวกับคนโอซาก้า อันนี้ตลกมากขอบอก!จริงๆก่อนมานี่ พี่ที่สอนภาษาญี่ปุ่น เขาก็เคยเล่าให้ฟังมาแล้ว ซึ่งมาเจอเองก็เชื่อ แต่พอครูคนนี้มาเล่าให้ฟังว่าเขาทำเป็นรายการก็ยิ่งฮาเข้าไปใหญ่!

แฟนญี่ปุ่นคิดว่าคงเคยได้ยินคำว่า 一発ギャグ (ippatsu gakku เทคนิคการปล่อยมุขเด็ดประจำตัว) ของคนโอซาก้าหรือคันไซสินะ มันจะเป็นอิมเมจติดตัว ว่าคนโอซาก้า (หรือคันไซ) (จะพูดแค่โอซาก้าละกันนะ แต่ถือว่ารวมคันไซหมด) ว่าทุกคนต้องมีวิธีการปล่อยมุขประจำตัว รวมไปถึง ノリツッコミ (nori tsukkomi) อันนี้แปลไทยยังไงดี แปลไม่ถูก orz เอาเป็นว่าจะเล่าให้ฟัง =w=b โนริทสึโคมิ นี่แหละ ที่เป็นหัวข้อของรายการครั้งนี้

รายการนี้เขาก็จะทำสถานการณ์ในการเข้าไปถามคนโอซาก้า และคนโตเกียว เปรียบเทียบกัน โดยจะเดินเข้าไป ให้ทำแบบสอบถาม แต่แทนที่จะยื่นปากกาให้ ก็ยื่นแอสพารากัส (หน่อไม้ฝรั่ง) ไปให้แทน (มันเป็นคำพ้องเสียงของที่ญี่ปุ่นน่ะ) แล้วดูปฏิกิริยาตอบรับ

ไม่อยากจะเชื่อ!คนโอซาก้า ทั้ง 10 คนที่ถูกให้ทำแบบสอบถาม ทุกคนรับมุขหมด! 

"อ่ะนี่ครับปากกา~" ยื่นหน่อไม้ไปให้

คนโอซาก้าก็ยิ้มแล้วก็รับ

"ขอบคุณครับ~ ^w^ เอ ผมเกิดวันที่นี่ๆ (เขียนๆ) อ่าวนี่มันไม่ใช่ปากกานี่นา บ้าอ๊ะป่าว >o</!" เป็นต้น กร๊าก!ถ้าฟังญี่ปุ่นออกแล้ว ฟังออกว่าเขาพูดด้วยคันไซเบนนะ จะตลกกว่านี้มากกก!

นี่แหละ ที่เรียกว่า nori tsukkomi ของคนโอซาก้าล่ะ \>o</!

กลับกัน ถ้าไปที่โตเกียว 9 ใน 10 จะทำหน้าเข้มใส่

"อะไรเนี่ยคุณ นี่มันไม่ใช่ปากกานะ =_,=" น่ากลัว =.= แต่อ๊ะ อาจจะมีคนเถียง แต่ยังไง หนึ่ง ใน สิบก็รับมุขนะ! นั่นแหละ พอไปถามไอหนึ่งในสิบนั้นอีกที

"เอ่อ คุณเป็นคนโตเกียวหรอครับ?"

"อ๋อ ป๊าวว ผมคนโอซาก้าครับ ฮ่าๆ!" orz ชัดเลย กร๊ากกกกกกก

นี่แหละนะ เสน่ห์ของคันไซ อิอิ อยากเล่ามานานแล้ว พอดีเมื่อวานมีหนังเรียวจังพอดี เลยเล่าเลย หุหุ~  ตอนนี้มาอยู่โอซาก้า ก็ยิ่งซึมซับ เวลาดูหนังหรือรายการอะไรที่เขาพูดคันไซเบน แต่ไม่ใช่คนคันไซจริงๆ ก็จะเผลอคิดหรือพูดออกมา "ตลกจัง นี่ไม่ใช่คนคันไซนี่นา ฮ่าๆ" ด้วยภาษาคันไซเป๊ะๆ =_,= แถมชอบปล่อยมุขไปกวนตรีนชาวบ้านเขาอีก เฮ้อ ภูมิใจ ฮ่าๆๆๆ

เค้าเคยไปเที่ยวโตเกียวมาก่อน สองอาทิตย์ ถึงอย่างนั้นก็รู้ได้เลยว่า คนโตเกียวกับโอซาก้าต่างกันมากจริงๆ เลยภูมิใจและดีใจมากที่ได้มาอยู่โอซาก้า ถึงจะอยากอยู่โตเกียวด้วยก็เหอะ ฮ่าๆ แต่มันไม่เหมือนกัน โตเกียว อยากไปเพราะมันฝังใจ มันเหมือนมีสัญญาจากชาติเก่า (กร๊าก) แต่โอซาก้า เป็นบ้าน ที่รักมาก ถ้าไปไหนมาไหน ก็ภูมิใจและพร้อมจะตอบว่า เป็นคนโอซาก้าค่ะ อย่างเต็มปาก และคนโอซาก้าเป็นงี้ทุกคนจริงๆล่ะ~ แต่แน่นอน ภูมิใจที่สุดก็คือ การได้เป็นคนไทยล่ะนะ ฮ่าๆ

เอาล่ะพอ จริงๆเหมือนจะเขียนอีก แต่ลืมและ ฮ่าๆ เพราะงั้น ใครมีโอกาสจะมาญี่ปุ่น แนะนำว่าคันไซไม่ได้ด้อยกว่าโตเกียวเลยนะ มีอะไรดีกว่าเยอะ ยิ่งแฟนชั่น ดาราหลายคน ยอมออกมาซื้อเสื้อผ้าที่โอซาก้า เพียงแค่จะมาซื้อเสื้อผ้าอย่างเดียวเชียวนะเออ! คิดดูละกัน ฮ่าๆๆ!

.

.


ต่อไปเรื่องสุดท้าย (น่าจะ) เรื่องริวริวของพี่ T3T

จริงๆไม่มีไรอ่ะ (ไม่เคยมีไรจริงๆบล็อกนี้ ฮ่าๆ) คิดถึงริว ช่วงนี้เลยลองเปิดอ่านพวกบล็อกแฟนญี่ปุ่นดูว่า แฟนริวตอนนี้ที่นี่เป็นยังไงบ้าง

ชอบอ่ะ พึ่งเคยอ่าน ชอบมาก โอเคพวกกากๆมันก็มีเราก็ไม่พูดถึง แต่ถ้าพูดถึงแฟนริวจริงๆแล้วแบบ อบอุ่นมาก แฟนๆรักริวมาก แบบ อ๊ากกก T^T!

ในบรรดานั้น ชอบบล็อกอยู่คนนึง เขาเขียนดีอ่ะ ดีมากอ่านแล้วแบบ อยากนัดเจอจัง ฮ่าๆ จะขออนุญาติก๊อปมาแปลให้นะ



森本龍太郎いま現在の状況

ริวทาโร่คุงในตอนนี้

わかるひといますか?
มีใครรู้บ้างไหมคะ?
わたしは
เราน่ะ
龍太郎がどんな状況なのか
ไม่ว่าตอนนี้ริวทาโร่คุงเผชิญสถานการณ์แบบไหนอยู่

元気で過ごせているのか
笑顔で過ごせているのか
体調はくずしてないか
จะใช้เวลาในแต่ละวันอย่างมีความสุขรึเปล่า
จะใช้เวลาในแต่ละวันด้วยรอยยิ้มอยู่รึเปล่า
สุขภาพจะแข็งแรงดีอยู่รึเปล่า

すごく心配です
เราเป็นห่วงมากเลยล่ะ

2012年も龍太郎を愛し続ける
ことを誓います(´∀`*)
龍太郎が元気モリモトで過ごせてれば
あたしも幸せです(´・ω・)
ในปี 2012นี้ ก็จะสัญญาว่าจะรักริวทาโร่ต่อไปล่ะค่ะ
ถ้าเกิดว่าริวทาโร่ได้ใช้เวลาในแต่ละวันอย่าสดใสสมเป็นเป็นโมริโมตะได้ล่ะก็
เราก็มีความสุขค่ะ

でも、一瞬でもいいから逢いたい゚(゚´Д`゚)゚
いつでもいいから。
แต่ไม่ว่ายังไง ก็ยังอยากจะเจออยู่ดี แค่พริบตาเดียวก็ได้
ไม่ว่าเมื่อไหร่ ยังไงก็ยังอยากเจอ

龍太郎、元気?
もし見てくれてるなら笑って。
りなの生きがいなんです!!
ริวทาโร่สบายดีรึเปล่า? ถ้าตอนนี้อ่านอยู่ก็ช่วยยิ้มหน่อยนะ
เพราะว่ารอยยิ้มของริวทาโร่น่ะมันเป็นชีวิตของรินะเลยนะ!

学業専念したときショックだったけど
りなは、龍太郎を応援してるよ( ´∀`)
がんばって!!
ตอนที่ริวทาโร่บอกว่าจะไปตั้งใจเรียนน่ะ ช็อคมากก็จริง แต่รินะน่ะ จะเชียร์ริวทาโร่นะ
สู้ๆ!

りなも勉強がんばらなくちゃ(;゚Д゚)!
รินะเองถ้าไม่ตั้งใจเรียนก็คงแย่เหมือนกัน!

龍太郎はたくさんのひとに愛されてることを
忘れないでほしい。
เราน่ะไม่อยากให้ริวทาโร่ลืมนะ 
ว่าริวทาโร่น่ะเป็นที่รักของคนมากมายหลายๆคนมากแค่ไหน

一度仲間になったらずっと仲間だ。
すてきな言葉だね( ´∀`)

เพื่อนน่ะ เมื่อได้มาเป็นเพื่อนกันครั้งนึงแล้ว ก็จะเป็นเพื่อนกันตลอดไป~ (หมายถึงแฟนและจัมพ์)
คำนี้น่ะเป็นคำที่ดีจริงๆเลยนะ ^^

บล็อกของ 森本りなりなโมริโมโตะ รินะจัง ชอบมากเลย มันเหมือนไม่มีอะไรนะ แต่อบอุ่นมาก ^^ คนนี้รู้สึกจะอยู่เกียวโตนะจำไม่ผิด อยากนั่งรถไฟไปกอดซักที ฮ่าๆ

จากนั้น ยิ่งอ่านคอมเม้นของแฟนๆที่มาโพสก็ยิ่งแบบ ดีใจแทนริวอ่ะ หลายอย่างมาก ร้องไห้ได้มั๊ย ฮ่าๆ ดีใจแทนริวจัง ดีใจมาก

อ่านบล็อกรินะจังแล้ว ก็อิจฉานะ อยากเขียนได้บ้าง เราเชื่อว่าจัมพ์ต้องเปิดมาอ่านแน่ๆ พวกมันก็นักท่องเน็ตเหมือนกัน ยังไงก็ต้องเปิดมาเจอมาเช็คแฟนๆอยู่แล้ว ซักวัน ขอให้ได้เขียนนะ ^^ (บอกตัวเอง)

ต่อไป เป็นข่าวล่ามาแรง? พอดีรินะจังเขาเขียนขอไว้ด้วย ว่าถ้าแฟนคนไหนเห็นหรือรู้อะไรเกี่ยวกับริวช่วงนี้บ้าง ก็อยากจะให้โพสบอกกันอะไรอย่างนี้ เลยมีคนมาโพสไว้ด้วยสองคนน่ะ

คนแรก 

元日の夕方に私の母が龍太郎と愛犬のちぃを
見かけたそうです
それを聞いて家を飛び出しましたが残念ながら
私は会えなかったんです・・・えっと、置いときまして
母いわくとても元気そうだったそうです
それを聞いて安心しました
なので皆さんにもお知らせしたくコメントしました
早く龍太郎が帰ってきてくれるのを
私も心から願っています。

เมื่อวันปีใหม่ที่ผ่านมาคุณแม่มาเล่าให้ฟัง ว่าเจอริวทาโร่ กับ จี้จัง (น้องหมาของริวริว) มาเดินเล่นกันแถวบ้าน น่าเสียดายที่พอฟังปุ๊บรีบออกไปดูหน้าบ้านก็ไม่เจอซะแล้ว
ตามที่คุณแม่บอก คุณแม่บอกว่า ริวทาโร่ดูสบายดี พอได้ฟังแบบนั้นก็รู้สึกโล่งใจขึ้นมาเลยล่ะคะ ดังนั้นฉันเลยมาโพสเล่าให้ทุกๆคนฟัง ฉันหวังจากใจจริงขอให้ริวทาโร่ ได้กลับมาในเร็ววันด้วยค่ะ
จาก 森本ふうฟูซัง 

แล้วรินะจังก็โพสคุยกับฟูซังนิดหน่อย เห็นว่า หลังจากนั้นเพื่อนก็มาเล่าให้ฟังว่าเจออีก เห็นว่าริวก็ร่าเริงดีเหมือนเดิมล่ะ เห็นบอกว่า แถวบ้าน อยู่ใกล้กับบ้านโมริโมโตะ สถานีรถไฟเดียวกันน่ะ คนรอบข้างเลยเจอแล้วมาเล่าให้ฟังบ่อยๆ ดีจังๆ ^^

คนที่สอง 
結構、前なんですが・・・
私が堀越の文化祭に行ったときに
龍太郎をみました!
黒縁のメガネかけて2,3人の友達といました。
笑顔見れたし、龍太郎の周りにはファンらしき人たちがたくさんいて一度は先生の人に誘導されて安全な所にいましたが・・・
友達は田中こうきの弟と2人でいるところも結構みかけました。

元気そうでしたよ^^

เรื่องนี้ค่อนข้างนานแล้วล่ะค่ะ ตอนนั้นเราไปงานบุงคะไซที่โฮริโคชิมา (ราวๆกันยา-พฤศจิกา) เราเห็น ริวทาโร่ด้วยล่ค่ะ!ตอนนั้น อยู่กับเพื่อนที่ใส่แว่นสีดำอยู่สองสามคน (ละเอียดไปไหน) เราได้เห็นริวทาโร่ยิ้มด้วยล่ะ ตอนนั้นรอบๆริวทาโร่มีคนที่ท่าทางจะเป็นแฟนคลับล้อมอยู่เต็มไปหมด ซักพักเลยถูกคุณครูเรียกไปในสถานที่ปลอดภัย (น่าจะเป็นที่ๆกั้นไว้) แต่ตอนนั้นเพื่อนของเราเห็นริวทาโร่ยืนอยู่กับทานากะ จูริยืนอยู่อยู่ด้วยกัน หลังจากที่ริวทาโร่ถูกเรียกให้เข้าไปข้างในด้วยล่ะ

เขาดูสบายดีนะคะ ^^

จาก いもり อิโมริจัง

ซึ้ง ขอร้องไห้ได้มั๊ยเนี่ย orz ถึงจะถูกโดนเรียกให้ไปหลบ แต่อย่างน้อยก็มีพวกแฟนๆไปเยอะ อย่างน้อย ริวริวก็ได้เห็นแล้วล่ะนะ ว่ามีแฟนๆยังรักอยู่มาก แค่นี้ก็สบายใจขึ้นเยอะแล้ว ^^

สุดท้าย อิโมริจัง มาโพสเรื่องที่โคตรซึ้งเอาไว้อย่างนึง หวังว่าริวจะได้อ่านมันแล้วนะ 

早くじゃなくても・・・
龍太郎がjumpに帰ってきて
おかえりと言ってあげたいです^^

ไม่ใช่ว่าจะพูดว่าให้รีบกลับมาเร็วๆ...
แต่อยากจะพูดคำว่า "ยินดีต้อนรับกลับนะ" ในวันที่ริวกลับมาเป็นจัมพ์อีกครั้ง^^
.


.


.

สุดท้ายก่อนจาก มีคนโพสมาในบล็อกนี้อีกคนว่า

本当かどうか、わからないんですけど・・・
噂ですけど、
龍太郎くんに遭遇して、話しかけたら
ものすごく対応がよくて、握手までしてくれたとか・・・

ไม่รู้ว่าจะจริงรึเปล่า มันเป็นแค่ข่าวลือเท่านั้น เขาว่ากันว่า ถ้าเกิดเดิมผ่านไปเจอแล้วเข้าไปคุยกับริวทาโร่คุงล่ะก็ เขาก็จะคุยด้วยอยางใจดี และก็ให้จับมือด้วยล่ะ...

ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ก็ดีเนอะ ฮ่าๆๆๆๆ






4 ความคิดเห็น:

  1. อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

    แฟนๆญี่ปุ่นรักริวมากเลยยยย ได้เจอริวด้วยยยย ดีใจอ่ะ ซึ้งด้วยยยยย

    ริวจ๋ากลับมา เาก็จะพูดนะ คำว่า ยินดีต้อนรับกลับมานะ น่ะ อยากพูดจริงๆ

    รอวันนั้นอยู่นะริว^^

    โอซาก้าเบนมันน่าสนุกจริงๆด้วย เวลาดูพวกคันไซพูดกันก็หัวเราะน้ำตาไหลเลย เข้าใจบ้าง ไม่เข้าจบ้าง แต่บางคำก็พอฟังออก แต่พวกคันไซเป็นพวกเฮฮาจริงๆ

    แกงกะหรี่น่ากินอ่ะ อยากกินบ้างไรบ้างงงงงงง อีกสามเดือนก็จะได้กลับมาไทยแล้วน้าาา ทนอีกนิดเนอะ

    ตอบลบ
  2. พี่โซลคะ........
    ฮืออออออออออออออ T^T คิดถึงริวจังจริงๆเลย
    ถึงจะไม่เคยเห็นบล็อกจริงๆของรินะจังก็เถอะค่ะ แต่ตอนนี้รู้สึกรักเธอขึ้นมายังไงก็ไม่รู้
    คิดถึงจังเลย ทั้งน้องริวและก็จัมพ์ที่มีสิบคน ตอนแรกๆที่มีเรื่องหนูแค่ตกใจเท่านั้น ไม่ได้เป็นอะไรมาก แค่อยากให้ริวจังกลับมา สับสนด้วยความรู้สึกหลายๆอย่างที่โถมเข้ามา คำถามหลายคำถามผุดขึ้น 'เรารักจัมพ์จริงๆไหมนะ' หรือ 'ตรูเป็นอะไรไปฟระ?' แล้วก็ได้อ่านบล็อกของพี่โซลก่อนหน้านี้ด้วย พอเวลาผ่านไปเท่านั้นหละค่ะ..เริ่มมีความรู้สึกว่าชีวิตขาดอะไรไป อยู่ๆเวลาที่เห็นรูปริวจังหรือเห็นใครพูดถึงน้อง แม้แต่ตอนที่ดูรูปจัมพ์ที่มีเก้าคนก็ร้องไห้ออกมาอย่างไม่มีสาเหตุ
    จน ณ ตอนนนี้ ที่นั่งพิมพ์คอมเมนต์หนูก็ร้องไห้ออกมา ซึ่ง...ได้มีอย่างนึงที่เพิ่มเข้ามาในความรู้สึก คือ..หนูมั่นใจแล้วหละค่ะ ว่ารักจัมพ์จริงๆ
    เชื่อว่าพี่โซลเองก็เช่นกัน ไม่งั้นคงไม่มีเรื่องราวของพวกเค้าในบล็อกของพี่แต่ละหน้าใช่ไหมคะ? >.< เหอๆๆ
    ขอบคุณมากนะคะที่เขียนเรื่องดีๆให้ได้อ่าน รู้สึกดีมากเลยค่ะที่ได้เข้ามาอ่าน

    ตอบลบ
  3. มากับจี้จังด้วยยยย เริ่ดอ่ะ!!!!!!!!!

    ตอบลบ
  4. อั้ยย่ะ!! ข้าวหน้าแกงกระหรี่หน้ากินจังง ทำไมพี่แพทบอกว่ามันดูไม่น่ากินละ หนูหน่ะชอบแกงกระหรี่มากๆเลยนะ เห็นแล้วอยากกินน *0* 5555 แฟนคลับริวทำบีน้ำตาล่วงอะ ของอิโมริจัง แบบว่า...เป็นคำพูดที่สั้นๆง่ายๆแต่กินใจสุดๆๆ T^T และก็ถ้าได้เจอริวแล้วได้คุยได้จับมือจริงๆก็ดีสิ 555555 นอกใจยามะจังแบบเล็กๆ กร๊ากกก // วันนี้อ่านแล้วสนุกมากเลยยยยยยพี่แพทท พี่แพทเขียนมาอีกเรื่อยๆน้าา ยังไงน้องคนนี้ยังคงรออ่านอยู่ 555555

    ตอบลบ