จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556

บันทึก ณ โอซาก้า วันที่ 29-30 ธันวาคม 2013

ย้า~!

ไม่ได้เขียน Blog มาจะปีนึงแล้วเน๊อ~~ ตื่นเต้นจัง ฮ่าๆ 
ที่จริงมีแต่คนเรียกร้อง แต่ก็ไม่เขียนซักที คนดังนี่เหนื่อยนะ (◉◞౪◟◉`) *ถุย*

การตัดสินใจกลับโอซาก้าครั้งนี้ กระทันหันมากค่ะ เมื่อตัดสินใจอะไรบางอย่างได้แล้ว ก็ตัดสินใจโทรกลับมาที่บ้านโอซาก้า คุยไปคุยมาเลย อืม กลับบ้านโอซาก้าเถอะสิ้นปีนี้... แล้วก็จองตั๋วมาเลย ฮ่าๆ! นับว่าโชคดีมากที่ได้ตั๋วเที่ยวบินดีๆใบสุดท้ายพอดี ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ *สาธุ*

อาทิตย์ก่อนที่จะมาญี่ปุ่นยุ่งมาก ทำนู่นทำนี่ ออกจากบ้านทุกวัน แถมยังรู้สึกเบื่อๆอีก กว่าจะจัดกระเป๋าก็... ก่อนขึ้นเครื่อง กร๊ากกกกกกกกกกกกกก 
ที่ว่าจัดกระเป๋าเนี่ย มีแต่ของฝากนะ เสื้อผ้าก็หยิบๆๆเอา *ก็มันหนาวนี่นา ใส่เสื้อโค๊ตก็ปิดหมดแล้ว*


ตามรูปเลย กระเป๋าสองใบแลดูเหมือนไปนมนานนนน กรั่กๆๆๆ สองใบรวมกันยังไม่ถึง 1 ใบในทุกครั้งที่แบกไปญี่ปุ่นเลย ฮ่าๆ

เสื้อผ้าเค้าแค่ สองโลเองอ่ะ นอกนั้นของฝาก กับ น้ำหนักกระเป๋า.... เอามาน้อยมากจริงจัง มีแววจะทิ้งเสื้อผ้าไว้ที่บ้านด้วย หึหึหึ

เครื่องขึ้น ตี 2 อาบน้ำตอนหกโมง แล้วออกมาแฟชั่น *ห้างข้างบ้านอีกแล้ว* สามทุ่มครึ่งไปสนามบินแล้วก็รอ Zzzz

เป็นการเดินทางที่เหนื่อยมาก ปกตินั่งแต่การบินไทย แล้วมีคนจัดการจองตั๋วให้ทุกอย่าง อันนี้ทำเองหมดเลย ค่อนข้างตื่นเต้นนะ ฮ่าๆ
แล้วคือ ปกติการบินไทยจะบินตรง และพูดเป็นภาษาไทยเลยไม่ต้องอะไรมากมาย แต่ครั้งนี้เป็นสายการบินจีน ก็จะมีแต่ภาษาจีนกับภาษาอังกฤษ แล้วด้วยความที่เป็นสายการบิน low cost เราก็กลัวดิ ประกาศแต่ละทีจะตื่นมาฟังตลอด แล้วดันประกาศบ๊อยยยบ่อย =_=;; แล้วไม่มีสาระซักรอบบบบบ *ฮ่วย*

คือง่วงมาก ขึ้นเครื่องก็พยายามนอนเลย ก็นอนได้นะเพราะง่วง แต่ก็ไม่สนิทหรอก ผ่านไป 2 ชั่วโมงเท่านั้นแหละ โดนปลุกมาตอนตี 4 ครึ่ง กินข้าวเช้า =_=; แต่คือ ต้องตื่นมากินเพราะว่า หิว แล้วก็เดี๋ยวต้องไป via เครื่อง แล้วการซื้อของกินที่ประเทศอื่นมันอาจจะยุ่งยาก เลยกินตุนเอาไว้ก่อนดีกว่า


มื้อแรกอร่อยนะ เราชอบมาก เป็นรสชาติแบบผัดหมี่ซั่ว แต่เป็นเส้นสปาเกตตี้อ่ะ ใส่ปลา อร่อยจริงๆ ชอบๆๆ เลยฟิน ฮ่าๆ





จากนั้น 6.40 โดยประมาณก็ถึงเซี่ยงไฮ้ ต้องรอเครื่อง 2 ชั่วโมง ไม่นานมาก ชาร์ตแบตเต็มพอดี ฮ่าๆ แต่คือในเครื่องบินมันอุ่นมากไง พอเดินออกมาเท่านั้นแหละ... ดีนะ ที่ถือเสื้อโค้ตไว้ แต่ฟินบอกไม่ถูก คิดถึงอากาศแบบนี้ ตอนนั้น น่าจะราวๆ 5-7 องศา แหละมั้ง

แต่ ด้วยความที่ไม่ได้นอน ตรงๆว่าง่วงมาก เหนื่อย เพลียอ่ะ Wifi ก็ต่อไม่ได้ ไรก็ไม่รู้ ถามฝรั่งที่นั่งด้วยกัน เขาก็บอกว่า "I couldn't so" Orz เลยนั่งเหม่อรอ ฮ่าๆ!



อ้อ ตอนลงมาจากเครื่อง คือตรงนั้นเป็น Duty Free ไง เลยเดินชม เข้าห้องน้ำไรเงี้ย เจอแชมเปญ ขวดนี้... ที่พี่ไดกิงซื้อให้ เพื่อนที่เป็น DJ วันแต่งงาน อยากกินอ่ะ ฮ่าๆ เดี๋ยวขากลับ... อายุ 19 ซื้อได้ป่ะ Orz 

ประทับใจสนามบิน ปูดอง ของ เซี่ยงไฮ้อย่างหนึ่ง คือ มีน้ำร้อน ให้กดฟรีตลอดทั้งสนามบิน ไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่ดีใจมากๆ คือ อยากกินน้ำ แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องแลกตังค์ก่อนรึเปล่าไง ถ้าจะซื้อ หันไปเจอพอดี ฟินมากๆ กำลังจะเดินเข้าไปกด ก็มี พนง. ผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามากดก่อน นางจะกดปุ่มแล้วนะ แต่นางเห็นเรา นางก็ถอยให้ แล้วกวักมือแบบ คนจีนอ่ะ *แบบ โผงผาง* แล้วพูดญี่ปุ่นใส่เรา ฮ่าๆ ถามว่าคนญี่ปุ่นใช่มั้ย ก็แบบ เอ่อ... แล้วนางก็กดให้ ฮ่าๆ 

ที่จริงคือนางกดให้เสร็จก่อนก็ได้นะ เพราะยังไงนางก็มาก่อน แต่คงเพราะปุ่มมันเยอะแล้วเป็นภาษาจีนนางเลยเป็นห่วงเรา ดีจัง เจอคนใจดี


ซักพักพอชาร์ตแบตเต็ม ก็ได้ขึ้นเครื่อง จากเซี่ยงไฮ้-โอซาก้า ใช้เวลา 1.45 ชั่วโมงโดยประมาณ ได้นั่งข้างคนญี่ปุ่นที่น่าจะอยู่ที่เซี่ยงไฮ้มานาน *ป้าแกพูดได้สองภาษาเลยอ่ะ แต่คิดว่าคนญี่ปุ่นเพราะเวลาอุทาน หรือ อะไรจะพูดญี่ปุ่นตลอด* คือ ป้าก็คิดว่าเราเป็นคนญี่ปุ่น พูดญี่ปุ่นด้วยตลอด เวลาทำนู่นนี่ *แต่ก็ใจดีนะ* ฉันว่าฉันดูน่าจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนจีนมากกว่านะเออ... แต่ก็แอ๊บพูดอังกฤษ ฮ่าๆ!

รูปด้านบนคืออาหารเที่ยง นี่ก็หลับได้นิดเดียว โดนปลุก เฮ้อ ตรงๆว่า ร่างกายเริ่มไม่ไหวแล้ว ท้องเริ่มอืด *เวลาเพลีย กินข้าวไม่ตรงเวลา นอนไม่หลับ มักจะเป็น* อาหารก็รสชาติโอเคนะ แต่ด้วยความที่ร่างกายไม่โอแล้ว เลยกินได้อย่างละ คำสองคำ เสียดายเหมือนกันแหละ...

เที่ยวบินรอบนี้ดีอย่าง เขาร่วมมือ กับ Japan Airline ด้วย เลยฟังภาษาญี่ปุ่นเอาไว้เวลาเขาประกาศ สบาย อิอิ

พอลงเครื่องปุ๊บ จะว่าตื่นเต้นรึยังไงดี จนถึงวันนี้ ยังเฉยๆอยู่เลย คงเพราะท้องอืด กับ เดิมทีความรู้สึกช้าอยู่แล้ว ฮ่าๆ ตอนอยู่ ตม. ตื่นเต้นนิดๆ แต่เราพูดญี่ปุ่นได้ เลยผ่านสบาย

เป็นการเดินทางที่เหนื่อยมาก ปกตินั่งแต่การบินไทย แล้วมีคนจัดการจองตั๋วให้ทุกอย่าง อันนี้ทำเองหมดเลย ค่อนข้างตื่นเต้นนะ ฮ่าๆ
แล้ว คือ ปกติการบินไทยจะบินตรง และพูดเป็นภาษาไทยเลยไม่ต้องอะไรมากมาย แต่ครั้งนี้เป็นสายการบินจีน ก็จะมีแต่ภาษาจีนกับภาษาอังกฤษ แล้วด้วยความที่เป็นสายการบิน low cost เราก็กลัวดิ ประกาศแต่ละทีจะตื่นมาฟังตลอด แล้วดันประกาศบ๊อยยยบ่อย =_=;; แล้วไม่มีสาระซักรอบบบบบ *ฮ่วย*

คือง่วงมาก ขึ้นเครื่องก็พยายามนอนเลย ก็นอนได้นะเพราะง่วง แต่ก็ไม่สนิทหรอก ผ่านไป 2 ชั่วโมงเท่านั้นแหละ โดนปลุกมาตอนตี 4 ครึ่ง กินข้าวเช้า =_=; แต่คือ ต้องตื่นมากินเพราะว่า หิว แล้วก็เดี๋ยวต้องไป via เครื่อง แล้วการซื้อของกินที่ประเทศอื่นมันอาจจะยุ่งยาก เลยกินตุนเอาไว้ก่อนดีกว่า


มื้อแรกอร่อยนะ เราชอบมาก เป็นรสชาติแบบผัดหมี่ซั่ว แต่เป็นเส้นสปาเกตตี้อ่ะ ใส่ปลา อร่อยจริงๆ ชอบๆๆ เลยฟิน ฮ่าๆ




จากนั้น 6.40 โดยประมาณก็ถึงเซี่ยงไฮ้ ต้องรอเครื่อง 2 ชั่วโมง ไม่นานมาก ชาร์ตแบตเต็มพอดี ฮ่าๆ แต่คือในเครื่องบินมันอุ่นมากไง พอเดินออกมาเท่านั้นแหละ... ดีนะ ที่ถือเสื้อโค้ตไว้ แต่ฟินบอกไม่ถูก คิดถึงอากาศแบบนี้ ตอนนั้น น่าจะราวๆ 5-7 องศา แหละมั้ง

แต่ ด้วยความที่ไม่ได้นอน ตรงๆว่าง่วงมาก เหนื่อย เพลียอ่ะ Wifi ก็ต่อไม่ได้ ไรก็ไม่รู้ ถามฝรั่งที่นั่งด้วยกัน เขาก็บอกว่า "I couldn't so" Orz เลยนั่งเหม่อรอ ฮ่าๆ!


อ้อ ตอนลงมาจากเครื่อง คือตรงนั้นเป็น Duty Free ไง เลยเดินชม เข้าห้องน้ำไรเงี้ย เจอแชมเปญ ขวดนี้... ที่พี่ไดกิงซื้อให้ เพื่อนที่เป็น DJ วันแต่งงาน อยากกินอ่ะ ฮ่าๆ เดี๋ยวขากลับ... อายุ 19 ซื้อได้ป่ะ Orz 

ประทับ ใจสนามบิน ปูดอง ของ เซี่ยงไฮ้อย่างหนึ่ง คือ มีน้ำร้อน ให้กดฟรีตลอดทั้งสนามบิน ไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่ดีใจมากๆ คือ อยากกินน้ำ แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องแลกตังค์ก่อนรึเปล่าไง ถ้าจะซื้อ หันไปเจอพอดี ฟินมากๆ กำลังจะเดินเข้าไปกด ก็มี พนง. ผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามากดก่อน นางจะกดปุ่มแล้วนะ แต่นางเห็นเรา นางก็ถอยให้ แล้วกวักมือแบบ คนจีนอ่ะ *แบบ โผงผาง* แล้วพูดญี่ปุ่นใส่เรา ฮ่าๆ ถามว่าคนญี่ปุ่นใช่มั้ย ก็แบบ เอ่อ... แล้วนางก็กดให้ ฮ่าๆ 

ที่จริงคือนางกดให้เสร็จก่อนก็ได้นะ เพราะยังไงนางก็มาก่อน แต่คงเพราะปุ่มมันเยอะแล้วเป็นภาษาจีนนางเลยเป็นห่วงเรา ดีจัง เจอคนใจดี


ซัก พักพอชาร์ตแบตเต็ม ก็ได้ขึ้นเครื่อง จากเซี่ยงไฮ้-โอซาก้า ใช้เวลา 1.45 ชั่วโมงโดยประมาณ ได้นั่งข้างคนญี่ปุ่นที่น่าจะอยู่ที่เซี่ยงไฮ้มานาน *ป้าแกพูดได้สองภาษาเลยอ่ะ แต่คิดว่าคนญี่ปุ่นเพราะเวลาอุทาน หรือ อะไรจะพูดญี่ปุ่นตลอด* คือ ป้าก็คิดว่าเราเป็นคนญี่ปุ่น พูดญี่ปุ่นด้วยตลอด เวลาทำนู่นนี่ *แต่ก็ใจดีนะ* ฉันว่าฉันดูน่าจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนจีนมากกว่านะเออ... แต่ก็แอ๊บพูดอังกฤษ ฮ่าๆ!

รูปด้านบนคืออาหารเที่ยง นี่ก็หลับได้นิดเดียว โดนปลุก เฮ้อ ตรงๆว่า ร่างกายเริ่มไม่ไหวแล้ว ท้องเริ่มอืด *เวลาเพลีย กินข้าวไม่ตรงเวลา นอนไม่หลับ มักจะเป็น* อาหารก็รสชาติโอเคนะ แต่ด้วยความที่ร่างกายไม่โอแล้ว เลยกินได้อย่างละ คำสองคำ เสียดายเหมือนกันแหละ...

เที่ยวบินรอบนี้ดีอย่าง เขาร่วมมือ กับ Japan Airline ด้วย เลยฟังภาษาญี่ปุ่นเอาไว้เวลาเขาประกาศ สบาย อิอิ

ลงเครื่องปุ๊บ จะว่าตื่นเต้นรึยังไงดี จนถึงวันนี้ ยังเฉยๆอยู่เลย คงเพราะท้องอืด กับ เดิมทีความรู้สึกช้าอยู่แล้ว ฮ่าๆ ตอนอยู่ ตม. ตื่นเต้นนิดๆ แต่เราพูดญี่ปุ่นได้ เลยผ่านสบาย

พอออกมามี มี่ก็มารับ วิ่งเข้าไปกอดแล้วก็ "กลับมาแล้วน้าาา" มีมี่ก็ "ยินดีต้อนรับกลับบ้านนน มีความสุขนะ จริงๆ แต่ด้วยที่ ตอนกลางคืนมีกินเลี้ยงรวมญาติ นัดตอน 5 โมง แต่เราออกมาจากเกตได้ตอน บ่ายโมง แถมต้องทำธุระเอาซิมเน็ตในนั้นอีก รีบใหญ่เลย ไม่มีเวลาได้ซึมซับอ่ะ ฮ่าๆ ถึงบ้านก็ดีใจ๊ดีใจบอกตรงๆ มาจังรออยู่ในบ้าน เดินเข้ามาแล้วพูด ว่ากลับมาแล้ว มาจังก็เดินมากอด แล้วยินดีต้อนรับกลับบ้าน อิอิ เหมือนเมื่อก่อนเลย ♪♪

 แต่ด้วยความที่ 4 โมงแล้ว เลยรีบวางของ แต่งหน้าใหม่ แล้วหยิบข้าวปั้นที่ซื้อมากินๆ แล้วรีบออกไปกัน แย่สุดๆ เพราะท้องอืดไม่ไหวแล้ว แงงงง ได้ผ่านเส้นทางแห่งความหลังมากมาย แต่รีบ เลยไม่ได้ดื่มด่ำ เหอๆๆ



ในที่สุดก็ถึง โกเบ มาที่หน้าร้านเนื้อย่างที่นัดกันเอาไว้ *แต่เป็นเนื้อจากจังหวัด ยามากาตะ ตึ่ง!* เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา เข้าใจหน่อยคือ ปวดท้องมาก ฮ่าๆ เรียวจังกับมิกกิจัง*แฟนเขา ลูกครึ่งฟิลิปปินแต่พูดญี่ปุ่นไม่ได้* ก็เดินมาหา เรียวจังหล่อกว่าเดิมมม เรียวจังมากอดด้วย แอร๊ยย คิดถึง จากนั้น นัตจัง ก็จูงมือคันนะมาาา

คิดถึ๊งง คิดถึงงงงงง คันนะ เป็นอะไรไม่รู้ เขินอาย บิดไปบิดมา แต่พอกินไปได้ซักพักอยู่ๆก็คึก เหมือนคนเมา ฮ่าๆ แต่ตอนแรกที่เจอ น่าร๊ากกกก เด็กไรไม่รู้ ฮืออ เกลียดเด็กนะ แต่รักคันนะะะ

เราก็ถามว่า จำพี่สาวได้มั้ย พี่สาวอุ้มคันนะบ่อยๆตอนคันนะเด็กๆนะ คันนะบอกจำได้ ดีใจ H(APP' ∀`Y)

แล้วครอบครัวของพี่สาว มีมี่ ก็มา สนุกมากๆ อาหารก็อร่อย จองห้องส่วนตัวเอาไว้ สนุกจริงๆ คุยกัน เหมือนครอบครัวกันจริงๆนะ ฮ่าๆ จนลืมไปเลยว่า เราไม่ได้เป็นญาติกันจริงๆ ฮ่าๆ คือ บ้านนี้จะเรียกคนในครอบครัวต่อด้วย "จัง" หมด เราเลยไม่เกร็งด้วย สนุกจริงๆ

แต่โดนบังคับให้สั่งแอลกอฮอลมากิน เลยสั่งไวน์มา ไม่อร่อยเลย T_T แต่มันแพง ไม่กล้ากินเหลือ แต่สุดท้ายก็ไม่ไหว *ไม่ชอบอ่ะ* เหลืออยู่นิดนึงเลยส่งต่อ กระดกไม่ไหวแล้ว ฮ่าๆ ท้องก็ปวด ทรมาณตรงนี้นี่แหละ

หลานสาวมีมี่ก็พา ลูกชายที่พึ่งเกิดมาด้วย โอวว สนุกจริงๆ


ทัคคุง อายุ 7 เดือนน~ เป็นเด็กที่ตัวใหญ่มากๆอ่ะ ตกใจเลย เหอๆ


แอบดูราคาตอนเช็คบิล เกือบ 2 หมื่นบาทเลยนะ แต่กินกันเยอะมาก ถูกกว่าตอนไปกินกันสามคนอื่น สามคนหมื่นบาท อันนี้ตั้ง เกือบสิบคน ฮ่าๆ ที่จริงวันที่ 3 ชวนออกไปดื่มอีกแต่เรานัดจูริจังไว้♪ ตอนกลางคืนเขาก็ชวนไปต่อ แต่บอกตรง ไม่ไหวแล้ว ไม่ได้นอน แถมท้องอืดอีก อยากกลับบ้านมากๆ ณ จุดนั้น

เลยแยกย้ายกลับบ้าน เรียวจังเลยพามิกกิจังไปต่อ บ้านเราเลยเงียบ แต่ก็ดี ฮ่าๆ *ที่จริงนอนด้วยกันไง*

ตอนขากลับ ระหว่างทางเจอโปสเตอร์ฮันเตอร์ แสดงพลังโอตะซักหน่อย ทั้งๆที่ไม่ไหวแล้ว กร๊าก


อิอิ เดี๋ยวจะไปดูววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

พอแยกย้าย ก็เดินจูงมือคันนะ กลับ อิอิ น่ารักจริงๆ บนรถไฟก็เล่นนู่นเล่นนี่ ตลกดี ฮ่าๆ มาแยกกันอีกทีก็ สถานีใกล้บ้าน แล้ว วันปีใหม่ เจอกันอีกกกกก ตื่นเต้นๆ

กลับมาสลบจ้า ดีนะที่จู่ๆก็เอาลมในท้องออกได้ มันป่องเหมือนคนท้อง ทรมาณมากเลย พอจัดที่นอน อาบน้ำอะไรเสร็จ จิบชาร้อนๆของมาจัง เหมือนทุกวันในวันวาน แล้วก็แยกตัวไปนอน Zzz

วันที่ 31 

ที่จริงวันนี้จะไป USJ กับพวกเรียวจัง แต่ขี้เกียจ ไม่อยากไปเจือกคู่รักด้วย เลยแอบโกหกว่าเหนื่อย พอเช้ามา เรียวจังบอกว่า ไม่ไปแล้วเพราะเราไม่ไป คือ เสียใจอ่ะ เหมือนทำให้เขาอดเที่ยวเลย T_T

.... เดี๋ยววันนี้บ่ายๆ ว่าจะออกไปซื้อของใช้ในเมืองซักหน่อยละกัน เมื่อวานเดินไปในเมือง แต่ต้องรีบขึ้นรถไฟเลยไม่ได้ดูอะไรเลย เย้~ แล้วตอนกลางคืนกับมาเค้าดาวน์กับ JUMP!

..

...

.....

อ้อ ดีใจได้นอนห้องตัวเอง ได้มากินอาหารเช้ามาจังอีก มีความสุขมากวันนี้ ทั้งๆที่ ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบนี้มานานแล้ว แต่พอกลับมา ก็รู้สึกราวกับมันพึ่งผ่านไปเมื่อวานเอง อิอิ


ผ้าห่มหนามาก หนักจนขยับไม่ได้ ฮ่าๆ ตื่นมาอุ๊นอุ่นนนนน เดินออกจากห้องเท่านั้นแหละ สะท้านนนน


ขนมปังฝรั่งปิ้งกับเนย+ส้มกล้วยเยลลี่+และมิลค์ทีชาของศรีลังกา อร่อยยยย

จบแล้วล่ะ เหตุการณ์จนถึง ณ เวลานี้ แล้ว เดี๋ยวจะเขียนบันทึกอีกน้าาาา

ตอนนี้แค่นี้ก่อนล่ะ บ๊ายบายยย


วันศุกร์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

2 years From Us to YOU Ryutaro *อัพเดท 13/05*

สวัสดีค่า ทุกคนนน โซลเองงง ขออนุญาติเอาบล็อกมาเขียนเพื่อสิ่งนี้ *ขออนุญาติใคร?* เนื่องจากมันค่อนข้างกว้าง ทุกคนเข้ามาดูได้เยอะ เลยเอาบล็อกมาเขียนโปรเจค น่าจะดีกว่าน่ะค่ะ ^^

ปีนี้ก็จะครบ 2 ปีแล้วสินะ ที่น้องชายเราหยุดงานมาเรียน...  ข่าวลือมากมาย ทั้งบั่นทอนความหวังและการรอคอย แต่โซลก็เชื่อว่าหลายคนก็คงโตจากเหตุการณ์ในครั้งนี้แล้ว ไม่มากก็น้อย อย่างน้อยๆก็โซล ที่โตขึ้นจากเหตุการณ์ครั้งนี้มาก....

แฟนญี่ปุ่นหลายคนก็โตขึ้น และแกร่งขึ้นมาก จนแฟนๆเมนคนอื่นยังต้องนับถือ แล้วพวกเราล่ะ เป็นยังไงบ้าง? เกริ่นนานหน่อยเพียงแต่ว่า อยากจะให้ทุกคนเข้มแข็ง และอย่าเชื่ออะไรง่ายๆนะ โลกไซเบอร์สมัยนี้ใครจะทำอะไรก็ได้ แค่ฟังไว้หูก็พอ อย่าคิดมาก อย่าเอามาหวังจนเกินไป เอาพอดีๆ สุดท้ายแล้ว สิ่งเดียวที่เราจะเชื่อได้คือ คำพูดของริว และค่ายเท่านั้น 

อีกอย่างนึงที่เราทำได้ ก็คือ คอยเขียนจดหมายให้กำลังใจ และรอคอยอยู่ตรงนี้เท่านั้นแหละ ^^ โซลเชื่อว่าทุกสิ่งอย่างที่เราทำมาทั้งหมดริวได้รับและเห็นหมดแล้ว เท่าที่โซลรู้มา ริวทาโร่ยังคงได้จดหมายปกติจากแฟนๆอยู่ เห็นว่ามีแฟนริว กลัว เลยโทรไปถามที่ JE ซึ่งคำตอบก็ค่อนข้างน่าพอใจนะคะ แม้ว่ามันอาจจะไม่จริงก็ได้ แต่เราก็อยากจะให้มันเป็นจริงอย่างนั้นเนอะ

อ้อ ก่อนจะเข้าเรื่อง *ยาวชิบ* เราคิดว่าแฟนริว หรือ แฟนคนไหนก็ตาม ที่รอริว น่าจะเจอคำพูดจากคนอื่นๆที่มีความคิดต่างบ้างเช่น "ริวไม่กลับมาหรอก ไม่เคยมีใครได้กลับ จากประวัติจอร์นนี่" หรือ "ทำไมถึงไม่คิดถึง ใจของอีก 9 คนที่เหลือบ้าง" หรือ "เธอไม่ใช่เมนริวไม่ใช่หรอ? ทำไมต้องแคร์?" ทำนองนี้ ก็เข้มแข็งไว้นะคะ ถ้าเรามั่นใจว่าเราไม่ทำให้ใครเดือดร้อน *ต้องมั่นใจจริงๆนะว่าเราไม่เคยใช้คำพูดหรือการกระทำที่ทำให้จัมพ์เสียใจ* เราก็อย่าไปสนใจเลยค่ะ อีกอย่าง ริวจะกลับมาหรือไม่นั้น ไม่มีใครสามารถกำหนดได้ นอกจากตัวริวและตัวค่ายเอฃ แม้แต่จัมพ์ก็ทำอะไรไม่ได้เหมือนกันค่ะ ดังนั้น ม่มีใครมีสิทธิ์มาตัดสินริว จากเหตุการณ์ที่แล้วๆมาในอดีตหรอกนะคะ เพราะว่า ริวทาโร่ คือ ริวทาโร่ ไม่ใช่ อุจิฮิโรกิซัง คุซาโนะซังหรือโมริอุจิซัง ดังนั้น อย่าเอามาเทียบกันเลยค่ะ ต่างคน ต่างมีเหตุผลกันคนละอย่าง ต่างคนต่างมีจังหวะชีวิตคนละแบบ อย่าเอาใครมาชั่งน้ำหนักกับใครเลยค่ะ ดังนั้น เข้มแข็งไว้!

โปรเจคริวปีนี้นะคะ ขอคิดชื่อก่อนนะ กร๊ากกก ไม่รู้ว่าพวกเราจะต้องมารวมหัวกันทำโปรเจคแบบนี้ต่อไปอีกกี่ปี หรือปีนี้อาจจะเป็นปีสุดท้ายแล้ว มันก็น่าคิด ฮ่าๆ แต่ขอแค่ได้ทำอะไรซักอย่าง อย่างน้อยๆ แม้ว่าริวจะไม่เห็น ก็ถือซะว่า ทำเพื่อให้กำลังใจซึ่งกันและกันเองก็แล้วกัน แต่อย่าลืมนะคะ ว่ สิ่งที่พวกเราทำ แฟนๆของจัมพ์ทั่วโลกรับรู้ และทำให้พวกเขามีกำลังใจต่อไปได้เหมือนกัน โซลว่า แค่นี้ก็คุ้มค่าที่จะทำแล้วล่ะค่ะ


โปรเจคก็คือ

อยากจะให้ทุกคนถ่ายคลิปวิดิโอค่ะ... แรงมะ ฮ่าๆ! ถ่ายแล้วก็ พูดข้อความถึงริวค่ะ สั้นๆ คลิปละ ไม่เกิน 10 วินาทีนะคะ ตัวเลขดูน้อยๆ แต่มันพูดได้นานเลยนะคะ ถ้ายังไงลองจับเวลาดู แล้วเราจะเอามาต่อๆกันโดยทำเป็นสตอรี่ค่ะ

สตอรี่ที่ว่า เราจะทำเป็นเหมือนกับรายการรายการ หนึ่ง *นึกถึงรายการญี่ปุ่นเอาไว้* ที่จะมีหัวข้อมาสัมภาษณ์คนน่ะค่ะ เราจะทำแบบนั้นกัน ตัวอย่างเช่น

บรรยาย : ผ่านไปสองปีแล้วสินะ เวลาผ่านไปเร็วมาก บลาๆๆๆๆ แล้วแฟนๆล่ะ คิดถึงริวรึเปล่า?

*คลิป ซัก 5-6 คลิปตามความเหมาะสม*

บรรยาย : ทุกคนคิดถึงริวมากจริงๆด้วยสินะ แต่ว่ากาลเวลาก็ผ่านไปเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน ทุกคนยังคงรักริวเหมือมเดิมอยู่ใช่รึเปล่า?

*คลิปซัก 5-6 คลิปตามความเหมาะสม*

บรรยาย : บลาๆๆๆ

ทำนองนี้ค่ะ

และสุดท้าย เราจะ ขอให้ทำคลิปอีกแบบ โดยเรียกชื่อริวทาโร่ ริวจัง ริวริว ริวคุง อะไรก็ได้ โล้นๆคลิปเดียวค่ะ ตอนสุดท้ายของคลิปเราจะทำเป็นทุกคน*ทุกคลิป* เรียกชื่อริว มาต่อๆกัน *นึกถึงหนังนะคะ เรียกชื่อต่อกันเป็นช็อตๆแบบรัวๆ* และสุดท้ายจะเป็นคลิปใหญ่ปิด โดยมีคนจำนวนมาก *เท่าที่จะหาได้*

"พวกเรารักริวทาโร่นะ พวกเราจะรอริวนะ กลับมาไวๆนะ" หรืออะไรทำนองนี้และปิดวิดิโอค่ะ
ทุกคลิป ทั้งคลิปยาวและคลิปเรียกชื่อ   ภายในวันที่ 10 มิถุนายน

คิดว่าไงคะ? ส่วนคลิปสุดท้าย โซลอยากจะนัดคนที่มาได้ มารวมตัวกันวันที่ 15 มิถุนายนค่ะ  บอกคร่าวๆเวลาอาจเปลี่ยนแปลงได้แล้วจะแจ้งอีกรอบนะคะ ^^ ต่อไปคือเงื่อนไขค่ะ

1.ในคลิปสามารถพูดได้ทั้ง ไทย  อังกฤษ ญี่ปุ่น เดี๋ยวโซลจะทำซับให้เองค่ะ ซับคงเป็นญี่ปุ่น กับ อังกฤษนะคะ แต่ถ้าใครอยากพูดญี่ปุ่นเลย ปรึกษาได้ค่ะ

2.ใน คลิป ไม่จำกัดว่า ต้องเดี่ยว มากับเพื่อนก็ได้ค่ะ สองคน หรือ 1 กลุ่มใหญ่เลยแล้วพูดพร้อมกัน ไม่จำกัดค่ะ เราอยากได้แบบคละๆ แลดูจากหลายๆที่ คนหลายๆพวก เดี๋ยวโซลจะเอา คำถามมาลงใน เพจ 
Morimoto Ryutaro Thailand นะคะ และให้ไปลงชื่อกัน ว่าใครจะทำอะไร ย้ำนะคะ ในคลิป จะมีกี่คนก็ได้ค่ะ

3.วิธีส่ง *แก้แล้ว* อัพลงเป็นลิ้งค์นะคะ ขอแบบชัดๆ แต่อย่าให้ใหญ่จนโหลดไม่ไหวนะคะ ฮ่าๆ

4.นำลิ้งมาแปะในเพจ Morimoto Ryutaro Thailand นะคะ ทุกคลิป ทั้งคลิปยาวและคลิปเรียกชื่อ  ภายในวันที่ 10 มิถุนายน ค่ะ

ทุกคนมีความเห็นอย่างไร ช่วยโพสบอกในกรุ๊ป หรือ ทางบล็อกนี้ได้เลยนะคะ

ติดต่อโซลได้ที่ Patty Zaol เฟสบุ๊คค่ะ หรือ @Zaol_Hana ทวิตเตอร์ค่ะ

ร่วมมือกันอีกครั้งนะคะ เพื่อริวและพวกเราเอง ฮ่าๆ ตอนนี้ข่าวดีมากๆหลายคนอาจจะยังไม่รู้ คนญี่ปุ่นส่วนมากรู้จักพวกเราแล้วนะคะ ไม่สิ ต้องบอกว่า รู้จักแฟนไทยมากกว่า ในฐานะ ผู้ที่รักริวและจัมพ์ทั้ง 10 คนมากมาย พวกเขาเวลามีเรื่องอะไร เขาก็จะเอาคลิป หรือ ภาพของพวกเราที่ทำเพื่อจัมพ์และริวต่างๆ มาพูดมาให้กำลังใจกัน มันเป็นเรื่องที่พวกเราควรจะดีใจนะคะ

ล้างยางอายแล้วมาทำกันเหอะ! หรือจะใส่หน้ากากก็ได้นะ ฮ่าๆ

ปล.ไม่จำกัดว่าเมนริวนะคะ ใครก็ได้ ถ้ารักจัมพ์ด้วยกัน สละเวลาซักนิด ถ่ายวิดิโอแล้วลงยูทูปให้ซักหน่อยนะคะ ขอร้องนะ


อัพเดท!!!

เราย้ายฐานทัพไปทีเพจ Morimoto Ryutaro 

Thailand แล้วนะคะ ตอนนี้ลงคำถาม ให้ลง

ทะเบียนจองการทำวิดิโอแล้ว มาช่วยกันนะคะ!

มี 6 แบบ 5 คำถาม ที่ต้องการให้ทำ ค่ะ

คำถาม

1.คิดถึงริวไหม?

2.ยังรักริวเหมือนเดิมไหม?

3.สำหรับคุณแล้วริวคืออะไรในใจคุณ?

4.ถ้าเจอริวอยากจะบอกอะไรกับริว?

5.จะรอริวไหม?

และ 

6.คลิปสั้นเรียกชื่อ ริวทาโร่ ตามที่ได้เขียนเอา

ไว้ค่ะ

ปล.คนที่ลงทะเบียนทำ 1 ใน 5 คำถามแล้ว จะ

ต้องไม่ทำซ้ำกับคนทำคลิปเรียกชื่อนะคะ



รายละเอียดการทำอีกครั้ง โดยละเอียด


รายละเอียด เนื้อหาในวิดีโอนะคะ ถึงจะบอกว่า 10 วินาที แต่อาจจะมากหรือน้อยกว่าก็ได้ ตามสมควรนะคะ แต่อยากให้น้อยกว่าค่ะ เพราะว่า จะตัดทำแบบช็อตๆๆรัวๆเหมือนสัมภาษณ์ออกรายการน่ะค่ะ เพราะว่าอยากจะให้เกิดความหลากหลายด้วย รบกวนด้วยนะคะ ^^ ดังนั้น การทำวิดิโอ ต้องการความ "กระชับ" และทำเหมือนการ "ตอบคำถาม" เช่น คำถามแรก คำบรรยายจะขึ้นมาบนวิดิโอว่า "แล้วแฟนๆล่ะ คิดถึงริวทาโร่มั๊ย?" ก็อยากจะให้ตอบคำถามค่ะเป็นแนวว่า "คิดถึงสิคะ บลาๆ" หรือ "เพราะไม่ได้เจอกันนานแล้ว ก็เลยคิดถึงมากค่ะ" แนวเหมือนตอบคำถามใช่ไหมคะ? ไม่ต้องเกริ่นอะไรยาวๆน่ะค่ะ เคลียมั๊ย? ตอนนี้โซลนึกๆคำถามในหัวได้แล้ว ประมาณ 5-6 คงไม่เกินนี้ ถ้ายังไงใครมีคำถามอะไรถามตอนนี้ได้เลยนะคะ แต่ละคำถาม ให้ลงจองได้ไม่จำกัดนะคะ เพียงแต่ว่า ทุกคำถามอยากให้มีคนมาจองในจำนวนเท่าๆกันจะได้ บาล๊านซ์ ถ้าสมมุติอันไหนน้อยกว่ามากกว่ายังไง เดี๋ยวจะลองเอามาเฉลี่ยๆดูค่ะ