จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอาทิตย์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ซาโยนาระ 1 ปี ที่โอซาก้า//การเดินทางครั้งใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น//ขอดราม่าหน่อยได้ป้ะ?

กลับมาแล้วค่ะ เมืองไทย ^^!

เฮ้อออ ในที่สุดก็กลับมาแล้ว~ ไม่อยากจะเชื่อเลยแฮะ~ กลับมาตั้งแต่วันที่ 2 กรกฏาแล้วล่ะค่ะ แต่เปื่อย เลยไม่ได้เขียนบล็อค เซ็งเลย ยิ่งพอทิ้งนานๆ เหตุการณ์ต่างๆที่น่าจดจำก็มักเลือนหาย? แต่ก็นะ นี่แหละสัจธรรม มีดับก็ต้องมีเกิด เพราะฉะนั้นก็ช่างมันเถอะ (มาฟีลไหนเนี่ย)

ฮ่าๆ คือตอนนี้เขียนบล็อกด้วยอารมณ์ที่หลากหลายมาก เพราะว่า วันนี้เป็นคอนทัวร์รอบประเทศ วันแรกของจัมพ์ไง กร๊ากกก  TwT! (หัวเราะทั้งน้ำตา) 

งั้นขอเขียนความรู้สึกตอนนี้ก่อนได้มั๊ยนะ? (เรื่องของแกสิ) งือ... จริงๆเรา ก่อนกลับมา เราก็จองบัตรให้หญิงพี่ซาโระ ที่ตอนนี้เรียนอยู่ที่ฮอกไกโดให้ ถึงแม้ว่า จะมีกฏใหม่ออกมา ว่าถ้าไม่ใช่ตัวจริงถือบัตรจะไม่ให้เข้า แต่หญิงพี่ก็ยืนยัน จนเราได้บัตรกันมา โดยได้ที่นั่งดีมาก (แอบเสียใจ ตอนเราไปไม่เห็นได้ที่ดีๆเลย แต่นะ ตอนนั้นมันเป็นที่นั่งแห่งพรหมลิขิตของเรา T^T!) ส่งตั๋วให้ก่อนขึ้นเครื่องบินกลับกันเลยทีเดียว (จริงๆส่งไม่ทันต้องให้โฮสส่งให้ด้วยซ้ำ) พอกลับมา เมื่อคืน ก่อนวันจริง ก็เร่งกัน เราช่วยเขียนจดหมายมอบอำนาจ แสกนพาสปอร์ต จดหมายภาษาญี่ปุ่น แสกนบัตรแฟนคลับของเราส่งไปให้พี่เขา เพราะกลัวจะไม่ได้เข้า ทำกันทุกวิถีทาง (ลืมเปือยเลยเมื่อคืน รีบมาก) อย่างน้อยๆเราก็อยากให้พี่เขาได้ไปอ่านะ..

พอมาวันนี้วันจริง เราก็รีบเปิดไลน์แต่เช้า กลัวพี่เขาจะมีปัญหา ไม่กล้าปิด ไม่กล้าทิ้งไปไหน เป็นห่วง ว่าต้องไปสู้คนเดียว แต่สุดท้าย ดูเหมือนว่า จากที่สังเกตการณ์มาจากคนดูรอบแรก (เราได้บัตรรอบบ่าย) ก็สรุปว่าไม่มีตรวจอะไรเลยโล่งใจไป ฮู้วว

แต่ทีนี้ พี่เขาก็รายงานทุกวินาที ทั้งรูป ทั้งบรรยากาศ มันตอกย้ำ... ตอนนี้เรากลับมาเมืองไทยแล้ว ไม่มีโอกาสแบบนั้นแล้ว มันเศร้าอย่างไม่อาจบรรยายได้เลยล่ะ

ตอนอยู่ที่นู่นเฉยๆ เพราะว่า เราอยู่ที่นู่น เขาก็เป็นของเราง่ายๆ จะดูทีวีก็ดูได้ จะโทรไปถามที่สำนักงานเวลามีอะไรก็ได้ จะไปดูคอนเสิร์ตก็ได้ แต่พอกลับมาที่นี่ ต้องกลับสู่สภาพเดิมอีกครั้ง ก็คือ นั่งมองนาฬิกาและนับเดินหน้า 2 ชั่วโมง อยู่อย่างนี้ จนกว่าคอนเสิร์ตจะจบ เหมือนกับตลอด 4 ปีที่ผ่านมา (ไม่นับปีที่แล้วนะ)

คือก็ดี ไม่เสียตังค์ ฮ่าๆ แต่นะ... เจ็บปวดอ่ะ พูดอะไรไม่ออกจริงๆ เลยได้แต่มานั่งพิมพ์บล็อคเวิ่นเว้อระบายอารมณ์ ถึงจะมีบางคนเข้ามาอ่านเพราะอยากรู้เกี่ยวกับประสบการณ์ที่ไปอยู่ญี่ปุ่นมาก็ตาม แต่กลับมาเจอ เจ้าของบล็อคพร่ำเพ้อแบบนี้บ่อยๆ ถึงขั้นรุนแรง ก็ต้องขออภัยด้วย วัยรุ่นมักอารมณ์รุนแรงค่ะ =w=;;

สรุป พิมพ์นี้ไป ก็นั่งตอบไลน์กับหญิงพี่ที่ตอนนี้อยู่ ณ หน้าโดมจัดคอนเสิร์ตที่ ฮอกไกโด เหมือนโดนเอาดาบทิ่ม แล้วถีบหัวใจซ้ำ เหอๆ ;____; ไหนจะเรื่องคอนที่ไทเปอีก (หงุดหงิดมาก) ถึงเราจะไปอยู่ญี่ปุ่นมาแค่ 10 เดือน แต่ช่วง ครึ่งหลัง จัมพ์มีความหมายกับเรามาก (ไม่ดิ แต่แรก กร๊าก) จนอยู่รอดมาได้ขนาดนี้ (แน่นอน จากหลายๆปัจจัยด้วย) พอกลับมาแล้ว มันเงียบ มันเหงา มันไม่มีอะไรเลย มัน...จะร้องไห้อ่ะ เอาตรงๆ

เริ่มรวมเรื่องส่วนตัวและ กร๊ากก =w=;; กลับๆ จริงๆ ที่เราพูด คนที่่ยังไม่เคยมีโอกาสได้ไป อาจจะหมั่นไส้ หรือหงุดหงิด ก็คงจะไม่ใช่เรื่องแปลก เราต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะ เราแค่พูด ในฐานะที่เราไปอยู่ ณ ตรงนั้นมาแล้ว ถึงแม้จะผิดกับคนที่ยังไม่เคย แต่เราก็เชื่อว่า ถ้าในที่สุด วันนึง คุณได้ 'เคย' ไปใช้ชีวิตอยู่ที่นู่น ได้มีสิทธิหนึ่งที่แฟนคลับควรจะได้รับทุกประการแบบเรา เมื่อวันนึงคุณต้องย้อนกลับมาในสถานะเก่า ที่ได้แค่นั่งมองผ่านจอ และ นาฬิกา คุณก็จะเข้าใจดีค่ะ...

ดราม่าวุ้ย กร๊ากกกก!!!

ย้อนกลับมา เรื่องหนึ่งอาทิตย์ย้อนหลังก่อนที่จะกลับมาที่เมืองไทย...

จริงๆเหตุการณ์เยอะมาก แต่ดูเหมือนจะไม่น่า ลงรูปได้ เพราะว่า เมมเต็มอีกแล้ว และก็มีทีท่าว่าจะต้องย้ายบล็อคในไม่ช้า... =w=;;

เสาร์อาทิตย์ก่อนเข้าอาทิตย์สุดท้าย มีนที่รัก~ ที่เรียนอยู่ที่โยโกฮาม่า มาเที่ยวหาที่โอซาก้าล่ะ~ สนุกกันมากๆเลย ทั้งไปนัมบะ (แหงสิ) และอีกวัน พวกมาจังก็พามีนไปเกียวโตด้วยกัน ถึงจะร้อน แต่ก็สนุกมากๆเลยล่ะ~

เอ้อ ตอนเย็นหนาวนะ (ไม่รู้หนาวได้ไง) สงสัยไปกินของแพงมั้ง กร๊ากกก =w= มื้อนั้น ตั้ง 9000 กว่าบาทเลยนะ!!


ไปกินริมน้ำกันล่ะ~ ร้านนี้หรูมากๆ!!!!!!! เป็นบุญเหลือเกินที่ได้มากิน T^T เสียดายมีรูปเยอะแยะมาก รูปอาหารอีก แต่ลงไม่ได้ ฮือๆ!

หลังจากมีนมาเที่ยว 3 คืน 4 วัน แล้ว จากนั้น เราก็เข้าสู่อาทิตย์สุดท้ายกันเต็มรูปแบบ~ ขอบอกว่า มันคืออาทิตย์สุดท้ายที่รอคอยมานานเกือบปีจริงๆ แต่พอเข้าแล้ว กลับไม่รู้สึกอะไรเลยอ่ะ - -

เปิดมาวันจันทร์~ เพื่อนๆปี 3 ที่เรียนภาษาจีนด้วยกัน ก็จัดปาร์ตี้อำลาเล็กๆให้ พร้อมกับคุณครูล่ะ~ ดีใจมากๆเลย ><! จริงๆหยุดเรียนหลายวัน เพื่อนในคลาสจีนเลยต้องเมล์มาถามเลยล่ะว่าเป็นอะไรรึเปล่า ปลื้มจัง~ แล้วก็บอกว่าให้ไปโรงเรียนด้วย จะจัดปาร์ตี้ให้ แล้วแบบนี้ใครจะโดดกัน? ฮ่าๆๆ


กินขนมกันนิดๆหน่อยๆล่ะ~ ที่จริงก็งง ทำไมจัดวันนั้น แต่ช่างเหอะ ฮ่าๆ! แต่พอวันศุกร์มีคาบอีกคาบนึง (วันสุดท้ายที่ไปโรงเรียน) ก็ต้องกล่าวคำอำลาจริงๆจังๆอีกครั้ง เศร้านิดๆ ;_;
 

ถ่ายรูปกับแก๊งเก่าล่า~! นี่วันจันทร์นะ ยุ่งมาก ฮ่าๆ แต่ก็ดีใจมากที่เผื่อๆสละเวลามานับกันถ่ายรูปรวมให้เค้า รักเพื่อนกลุ่มนี้จัง TwT
 

รูปนี้วันอังคารที่ชมรม~ จริงๆชมรมมี อังคาร กับ ศุกร์ แต่วันศุกร์จะไม่มีชมรมเพราะเข้าช่วงสอบ เขาเลยมาจัดให้วันนั้น วันนั้นน่ะ จูริจัง (เป็นประธาน) ก็ เดินไปคุยกับแคร์รี่ตลอด (ครูฝรั่ง ที่ปรึกษาในรูป ที่สอน วิชา ปีสามกับเค้าอ่ะ)  สุดท้ายก็คือ เขาอยากจะจัดอะไรๆให้เรา ดีใจมากๆเลย TT เขาก็มาบอก (มายืนรุมกันทั้งชมรม) วันนี้เป็นวันสุดท้ายของฮานะจังนะ ฮานะจังอยากจะทำอะไร บอกมาได้เลยนะ... แบบ โดนงี้ใครจะไปพูดออก น้ำตาจะไหล TT แล้วก็มีทำนู่นนี่เล็กๆน้อยๆให้ตลอดทั้งชมรมเลย ดีใจมากเลย ขอบคุณนะ~


นี่ถ่ายเฉพาะปีสองในชมรมล่ะ~ จริงๆมาโกะก็อยู่ด้วยนะ แต่วันนั้นมาโกะกลับก่อน น่าเสียดาย TT

หลังจากนั้น วันพุธก็ไม่มีอะไรมาก ใช้ชีวิตในโรงเรียนหยดสุดท้ายไปทั้งวัน~ แต่ตลอดทั้งอาทิตย์ก็ต้องกล่าวอำลาตลอด จนไม่รู้จะกล่าวอะไรดีเลยอ่ะ ฮ่าๆ =w=;; แต่แบบ ตอนที่กล่าวอำลา มันโล่งใจ มันดีใจยังไงบอกไม่ถูก แต่ก็ไม่ได้มากมายอะไร ยังไม่เศร้าด้วย คงเพราะมันเป็นแบบ พวกความรู้สึกช้าละมั้ง... แล้วเดี๋ยวคอยดู =w=;;;

ทีนี้ เย็นวันพุธ นะโม (น้องที่เป็นคนไทยในโรงเรียน) จะมาบ้าน พอดีเราจะเอาของที่เราไม่ใช้ให้น้องไปไง อย่างพวกยา หรือว่า ถุงเท้ากันหนาวอะไรทำนองนี้ เลยไปบ้านกัน~ มันก็ประทับใจทางกลับบ้านกับตัวบ้านเราใหญ่ ปลื้มๆ อิอิ

แล้วมันเลยเสนอจะถ่ายรูปเรากับจักรยานคู่ใจ พร้อมกับ เทคนิคการ ขี่จักรยานขึ้นเขา? กร๊ากกก ไปดูกันเล้ยยย!!!?


ชอบรูปอ่ะ กวนมาก กร๊ากกก! 



คลิปสว่างไปหน่อยลืมปรับแสง - - เหมือนขี่จักรยานขึ้นสวรรค์เลยอ่ะ กร๊ากกก!!! สูงมากเลยนะ คิดดูขนาดนะโม แค่เดินตามมันยังเหนื่อยอ่ะ ฮ่าๆ! แต่เราชินแล้วไง ฮ่าๆ แต่ก็ร้อนไง กลับบ้านถอดเสื้ออ่ะ เสื้อเปียกใหญ่มากกกกกก เห็นแล้วตกใจเอง =..=

ถัดมาวันพฤหัส ก่อนวันสุดท้ายที่จะต้องจากโรงเรียนไป.. ตอนหลังเลิกเรียน เพื่อนผู้หญิงในห้องนัดไปเที่ยวล่ะ~ ดีใจนะที่มาชวน ฮ่าๆ! ถึงจะเป็นพวกแรงๆก็เหอะ =w=;; นะโมก็ไปด้วยนะ ฮ่าๆ! แต่ก่อนหน้านั้น ตอนกลางวันก็ไปกินข้าวที่โรงอาหารกับจูริจัง ;_; อร่อยมาก อาหารโรงเรียนมื้อสุดท้าย ฮืออ ได้กินกับจูริจังด้วยอ่า แบบดราม่า แงงง


ภาพเบลอๆนิดๆ เอาแค่บรรยากาศ =w= เค้ากินคัตสึด้ง จูริจังกินแกงกระหรี่ล่ะ~ ไม่อยากจะบอกว่าอาหารโรงเรียนเค้าอร่อยมากกกกก!
 

นี่ตอนเย็นไปถ่ายพุริกับสาวๆในห้อง~ ก็สนุกดีนะ หุหุ ยังไงก็ต้องขอบคุณมากๆที่ชวนเน้อ! 

อ้อ ก่อนไปเที่ยว พอดี มินานิคุงหัวหน้าห้อง เพื่อนผู้ชายที่ดีกับเค้ามา เขาจะมาโรงเรียนวันนั้นเป็นวันสุดท้ายเพราะเขาจะไปเรียนที่นิวซีแลนด์โครงการเดียวกับเรานี้ (น่าสงสาร) ตอนเย็น ทั้งห้องเลยทำของขวัญเซอร์ไพร้สให้เราสองคนพร้อมกัน (รวบไปเลยว่างั้น) ซึ้งดี แต่ตอนเขาให้กล่าว เราก็ไม่รู้จะกล่าวอะไร - - 1.ไม่ได้ผูกพันกับเพื่อนห้องนี้แต่แรก อีกฝ่ายก็เหมือนกัน เลยพูดสั้นๆ เหอๆ แต่ก็ดีใจนะ ที่ทำมาให้ ดีใจมากเลย คล้ายๆเฟรนชิพน่ะ แม้แต่เพื่อนผู้ชายยังเขียนให้เลย ฮ่าๆ!

แล้วตอนก่อนจะไปเที่ยว ก็เดินกลับมาที่ห้องเรียน เจอมินามิคุงนั่งเก็บของอยู่คนเดียว เราเลยร่ำลากันอีกครั้ง พร้อมกับให้กำลังใจซึ่งกันและกันแล้วก็จับมือ... ^^ เพื่อนๆที่เดินตามมาทำท่าประทับใจกันใหญ่ ฮ่าๆ! 

กับมินามิคุง ตอนหลังเราก็ติดต่อกันมาทางเฟสบุ๊คตลอดแหละ คิดว่าน่าจะเคยเห็นเขาไปโพสบนเฟสเค้าบ้างนะ หุหุ ^ ^

และแล้วก็มาถึงวันสุดท้าย... 

มันคือวันที่เรารอมานานตลอด สิบเดือนนี้เลยนะ ถึงจะดูสนุก แต่ชีวิตทุกๆวันในโรงเรียน มันทั้งน่าเบื่อ เหนื่อย และลำบากมากเลยนะ (ย้ำบ่อย) ฮ่าๆ ดังนั้นจึงเฝ้ารอมาตลอดที่จะมาถึงวันสุดท้ายนี้... ถึงแม้ว่า เราจะรักจูริจัง และสนิทกับเพื่อนกลุ่มก่อน แต่จูริจัง เราก็เจอกันได้แค่วันละนิดเท่านั้นเพราะเราอยู่กันคนละห้อง T__T เพื่อนกลุ่มเก่าก็ เจอกันก็ทักกัน แต่ก็ได้แค่นั้น ดังนั้น เพื่อนกลุ่มใหม่จึงเหงามาก การบ้านในโรงเรียนอีก หลายอย่าง และในที่สุด วันนั้นมันก็กำลังจะจบแล้ว

แต่ทำไม๊ ทำไม มันถึง ไม่รู้สึกอะไรเลยอ่ะ -__- ยังรู้สึกเหมือนปกติทุกๆวัน เหมือนอย่างเคย วันศุกร์ อีกวันก็เสาร์อาทิตย์ เปิดวันจันทร์ ก็ไปโรงเรียน ทำนองนั้นเลย ฮ่าๆ! ตอนแรกก็กลัวจะไม่ร้องไห้ด้วย (อ้าว) คือ เป็นคนที่แบบ เหตุการณ์ที่ควรร้องมันมักจะไม่ร้องไง - - เลยกลัวอดมีฉากซึ้ง (นั่น)

แล้วแบบ ตอนเช้า เพื่อนในห้องก็ทำตัวไม่สนใจเราเหมือนเดิม (ทั้งๆที่เมื่อวานพึ่งให้เซอร์ไพร้ส แต่ช่างเหอะ ฮ่าๆ) คือหมายถึง เขาดีกับเรานะ แต่ไม่ใช่ว่า เทคแคร์อ่ะ ต่างคนต่างอยู่ ซึ่ง เย็นชานั่นเอง ฮ่าๆ! ;w;

พอกลางวัน เราเลยรีบวิ่งลงไปหาจูริจังที่ห้อง 3 คือ ห้อง 3 กับ ห้อง 1 น่ะ เป็นศูนย์รวมของเพื่อนห้องเก่าเค้าไง เลยว่าจะไปเรียกทุกคนมาถ่ายรูปรวม (ก็รักเพื่อนห้องนี้อ่ะ ยิ่งตอนกินข้าวกลางวัน เพื่อนห้องเก่าก็เมินเราเหมือนเดิม เราเลยไม่คิดจะหันหลัง วิ่งลงไปข้างล่างทันที ฮ่าๆ!) พอไปก็แบบ เพื่อนๆก็เข้ามารุมคุย สรุปทนไม่ไหว น้ำตาไหลเลย โฮ ToT!! รักเพื่อนห้องนี้อ่ะ จริงๆ แง! เพื่อนๆก็เข้ามาโอ๋ บอกว่าเราต้องได้เจอกันอีกน๊า~ ไรเงี้ย แบบ อบอุ่นน่ะ จูริจังเห็นก็ทนไม่ไหวเหมือนกัน ร้องหนักกว่าเราอีก T_T แต่ตอนนั้น เรายังทำอะไรไม่ถูก แล้วแบบมันยังเร็วไป เลยได้แค่ยืนร้องไห้ข้างๆกันน่ะ

จากนั้นเราก็เอ่ยปากบอกว่าอยากถ่ายรูปกับทุกคน คนทุกคนก็ยิ้มแล้วบอกว่า ถ่ายกันๆ! อยากให้เรียกที่เหลือด้วยใช่มั๊ย? เดี๋ยวไปเรียกมาให้น๊ะ! ไรเงี้ย แบบมันก็ไปตามเท่าที่จะได้กันเลยล่ะ ดีใจมากๆ บางคนมีซ้อมชมรมตอนกลางวัน ก็โดดมาหา ปลื้มกว่านี้มีอีกมั๊ย ขอบคุณนะ TwT


รูปนี้ดีมากๆเลย~!


แล้วก็นึกขึ้นได้ว่ายังไม่ได้กินข้าว เลยวิ่งขึ้นมากิน คิดดูดิ วันสุดท้ายยังโดนเมินนั่งกินข้าวคนเดียวอ่ะ - - ถึงเพื่อนจะเอากล้องมาถ่ายเล่นก็เหอะ เหอๆ แต่ดีนะยังมีมาโกะโผล่มาข้างหลัง TwT แต่ก็เจ็บปวดเกินกว่าจะทนไหว เลยรีบกินแล้วลงไปข้างล่างต่อ ฮ่าๆ!
 

เลยไปถ่ายรูปกับเพื่อนชายห้องเก่า~ ถึงจะเหลือแค่สามคนแต่ก็ยังดีวะ~ น่ารักที่สุดแล้ว เพื่อนห้องเก่าอ่ะ ฮ่าๆ!!

พอใกล้ออดดัง เราก็เดินไปหาจูริจัง บอกว่าหลังเลิกเรียนให้ช่วยรอหน่อยได้มั๊ย เพราะว่าเราต้องไปทำพิธีจบที่ห้องครูใหญ่อาจจะกลับมาลากันช้า ;__; ตอนแรกเราก็กลัวจูริจังบอกว่าไม่ได้ แต่จูริจังบอกว่า จะรอ เราแบบ น้ำตาจะไหลอ่ะ T^T! จูริจังบอกว่า "เรียนพิเศษวันนี้ช่างแม่งแล้ว จะอยู่กับฮานะจัง!" แบบ เราทำลูกเขาเลวป่ะเนี่ย แต่แบบ ดีใจ TT!

พอเข้าเรียนบ่าย เราก็รีบไปสิงที่ห้องสมุด นั่งเขียนจดหมายให้มาโกะ กับ จูริจัง (พิมพ์เอาไว้ตั้งแต่ตอนกลางคืนแล้ว แต่ยังไม่ได้เขียน) รีบปั่นเรียบเขียนให้กลัวจะไม่ทัน~ ตอนนั้นต้องทิ้งอารมณ์เศร้าให้หมด รีบเขียนจดหมายก่อน ฮ่าๆ =w=;;

พอเขียนเสร็จ ชั่วโมงแรกผ่านไป (ว่างสองชั่วโมง) ชั่วโมงสองเบ๊ตจังก็มา นะโมก็มาเราเลยถ่ายรูปกัน~ พร้อมกับทำพิธีอำลาห้องสมุด? (ใช้ชีวิตที่นั่นเกินครึ่งอ่ะ ผูกพันมาก ;__;)


ตั้งกล้องไกลไปหน่อยแต่ก็นี่แหละ TwT ดูรูปยังคิดถึงเองเลย ฮ่าๆ

หลังจากนั้นก็ไปเรียนคาบสุดท้าย  ตอนแรกครูเกือบลืมอีก ปล่อยนักเรียนกลับบ้านเฉยเลย เฟลอย่างแรงอ่ะ แล้วแกก็นึกได้ ให้เพื่อนๆทั้งห้องนั่งลงก่อน แล้วให้เราออกมาลาเพื่อนอีกรอบ ตอนนั้นฟีลไม่อยากลาเลย มันเซ็งไปหมดอ่ะ ฮ่าๆ =w=;; อยากรีบๆไปหาจูริจังเร็วๆ T__T เราก็ลาเป็นพิธี แล้วเพื่อนคนนึงก็เดินเอา เซอร์ไพร้สมาให้อีกชิ้น (ซึ่งเคยแอบเห็นแล้ว =w=;;) เห็นว่าอันนี้มินามิคุงเป็นคนตั้งโครงการไว้ก่อนพี่แกเดินทาง ซึ้งตรงนี้แหละ รักโคตร! อิอิ จากนั้นเราก็อำลากันแบบ เฉยๆเหมือนเราจะเจอกันอีกทีวันจันทร์ยังไงยังงั้นเลย เหอๆ ;__; ช่างเหอะเนอะ จบซักที แต่ก็ขอบคุณสำหรับ เซอร์ไพร้สดีๆนะ ^^
 

อันที่จริง ต้องตามโฮมรูมไม่ห้องครูใหญ่ แต่พอดี ว่าต้องกลับมาคุม เพื่อนๆทำเวรในห้องก่อน (พอดีคาบสุดท้ายเราไปเรียนที่ห้องอื่นกัน) เราเลยตามกลับมา ดูมาโกะมันสิ ฮ่าๆ~ นั่นแหละ... และเราก็หาจังหวะอยู่กับมาโกะสองคน แล้วยื่นจดหมายให้ ตอนนั้นสุดท้าย มาโกะก็ทนไม่ไหว ร้องไห้หนักเลย T^T รักมาโกะสุดแล้วห้องนี้ ดีใจมาก มาโกะเป็นคนเดียวที่ร้องไห้ให้ (หมายถึงเพื่อนห้องนี้) แบบดีใจมากๆ ขอบคุณนะมาโกะ ขอบคุณสำหรับทุกอย่าง
 

เราจะเป็น ยามาดะแฟนด้วยกันตลอดไปนะ ^^! 
 

หลังจากนั้นก็ไปทำพิธีจบกัน เขาก็ทำให้กันเป็นเรื่องเป็นราว มีคณะครูมาเป็นพยายาม มีตัวแทนนักเรียนมาเป็นพยานเลย ร้องไห้แล้ว ในที่สุดก็จบได้แล้ว! รู้สึกดีมากๆอ่ะ TwT เดินเข้าเดินออกเขาก็จะปรบมือให้ ได้ของที่ระลึกมาอีกเพียบ พะรุงพะรัง ของขวัญจากเพื่อนอีก ฮ่าๆ ตอนนั้นโฮมรูมก็ดูแลเราดีเหมือนเคย ถือของให้เค้าหมดเลย T^T ขอบคุณนะคะ ซาคาเอะเซ็นเซย์ ครูเป็นคนที่ดูแลหนูมาตลอดตั้งแต่ปีที่แล้ว ไม่เคยปล่อย ละทิ้งหนู แม้แต่เรื่องส่วนตัว หรือ หนูกลับบ้านเองไม่ได้ ขอบคุณค่ะ ^^

หลังจากนั้นก็ลาเบ๊ตจัง กับเพื่อนๆปีสาม อยากลานานกว่านั้น แต่จูริจังรออยู่ เลยรีบลา และวิ่งจากไป (โคตรละคร) แล้วก็ไปเจอซูซังกลางทาง (เพื่อนในกลุ่มใหม่ คนนี้โอเคกับเค้ามากสุดแล้ว) วิ่งเอาของขวัญเล็กๆมาให้ แบบซึ้งมากอ่ะ ลากันนิดหน่อยแล้วก็แยกกัน คนนี้เขาจะเป็นคนแปลกๆหน่อย พวกติสน่ะ ฮ่าๆ เลยไม่ได้ซึ้งอะไรมาก แต่สำหรับเรา แค่นี้ก็ดีใจแล้ว เพราะเขามองว่าเรา คือเพื่อนสนิทคนนึงของเขา ^^ ขอบคุณนะซูซัง


พอวิ่งมาถึงห้องเก่า จูริจังยังอยู่ เพื่อนคนอื่นๆก็ยังอยู่บางตา โล่งอกไปที เหอๆ จากนั้นก็ถ่ายๆรูปกัน แล้วก็ยืนมองหน้ากันซักพักใหญ่ๆ มัน..ไม่อยากจะเชื่อว่าต้องแยกกันแล้วน่ะ ไม่รู้จะพูดอะไรดี เลยไม่อยากกลับบ้านกัน แต่เค้าเห็นว่ามันเย็นแล้ว เราก็ไม่อยากจะรั้งเขาไว้เลยชวนกันกลับบ้านล่ะ
 

ก่อนกลับ มานะ กับ ซากุระ ฮ่าๆ ขอบคุณนะ ^^!

ระหว่างทางกลับที่แสนสั้นและสั้นมาก เราก็หาจังหวะยื่นจดหมายให้จูริจังจนได้ ตอนนั้นต่างฝ่ายต่างร้องไห้กันหนักมา Y_Y แทบจะไม่อยากจะต้องเดินแยกเลย แต่มันทำไม่ได้ ในที่สุดเราก็ต้องจากกัน โดยที่เราจะเป็นเพื่อนสนิท และรักกันเหมือนเดิมตลอดไป เท่าที่เราจะทำได้ ตอนนี้ที่พิมพ์อยู่ ยังจำความรู้สึกตอนนั้นได้อยู่เลย ร้องไปขี่จักรยานกลับบ้านไป... 

ลาก่อน เซนริ โคโค (โรงเรียนเซนริ)

หลังจากกลับบ้านก็ปรับอารมณ์ได้และนั่งจัดของต่อ ภารกิจใหญ่เลยทำให้ลืมไปได้ชั่วขณะ แต่ก่อนจะแพคของทุกอย่างลงกระเป๋า เราก็เลยถ่ายของที่เพื่อนๆให้มาทั้งหมดให้ดู (ซึ่งตอนนี้มันจะถูกส่งตามมาทีหลัง ฮ่าๆ)


มีของที่เพื่อนกลุ่มเก่ารวมกันซื้อมาให้ด้วย และก็อีกมากมาย~ แผ่นบนสุด จูริจังทำให้ มีครบทุกคนที่เราต้องการ กร๊ากก TwT
 

ช่างรู้ใจจริงๆ กร๊ากกก

ดูจากรูปคิดว่า มาโกะทำให้ล่ะ TwT ขอบคุณจริงจังน้าาาา

และเราก็ยัดมันเก็บกระเป๋า~ หุหุ จากนั้น วันเสาร์เราก็ออกไปร่ำลาโอซาก้าคนเดียว โคตรเศร้าอ่ะ TT ทำใจไม่ได้ โอซาก้าของช้านนนนนนนนนน บ้านชั้น แงงง ToT!! เดี๋ยวจะกลับมาหาอีกนะ แน่นอน สัญญา!! ล่องลอยมากอ่ะ ขนาดตอนเย็นนัดพวกมาจังไว้จะไปกินข้าวกัน เขามาสาย ชั่วโมงกว่า ยังนั่งเหม่อรอเขาได้เฉยๆอ่ะ เหลือเชื่อเลย เหอๆ

จากนั้นเราก็มากินร้านหรูกันอีก(แล้ว) ดีใจ TwT โชคดีมากได้ฮ่องส่วนตัวอ่ะ เหอๆ  หมดไปแปดพันกว่าบาท - -;; รู้สึกไม่อยากขรี้ เสียดายของ ฮ่าๆ!!
 

จากนั้นก็ไปบาร์เปียโนที่โรงแรม The Ritz-Carlton! โรงแรม 5 ดาว มีสาขาทั่วโลก!! โอ้วบร๊ะเจ้า จะเป็นลม! กาแฟแก้วเดียวก็ 600 บาทและ เป็นบุญมาก TT เพลงก็เพราะ ช็อกแลตฟองดูก็อร่อย นักร้องก็สวย (เป็นชาวอังกฤษ) หุหุ ระหว่างกำลังดื่มด่ำ แจ๊สมินก็โทรมาลา เพราะจะกลับประเทศวันรุ่งขึ้นแล้ว น้ำตาเล็ดนิดๆ แต่ก็นะ แล้วเราก็จะได้เจอกันอีก ^^


เสียดายรูปเบลอ~

เช้าวันรุ่งขึ้น ก็เดินทางไปสอบ วัดระดับ N2 ตกแหงๆ รู้สึกได้ถึงการทำข้อแรก กร๊ากกกกกก =w=;; ช่างเหอะ เหอๆ ทำได้แค่ รีดดิ้ง กับ พาร์ทฟัง ส่วนแกรมม่า กับ คันจิ ไม่ได้เลย ;__; ช่วยไม่ได้อ่านะ นั่นแหละ~ พอเสร็จวันนั้น มันถึงได้รู้สึกว่า หนึ่งปีที่นี่ของเราจะจบแล้ว เพราะไม่มีเรื่องอะไรคาต้องทำอีกแล้ว ตอนนั้นก็อาลัยขึ้นมา...

เราอยู่มาจนไปไหนมาไหน ในที่ๆเราไม่รู้จักคนเดียวได้ในญี่ปุ่นแล้ว แต่ในขณะเดียวกัน นี่ก็เป็นวันสุดท้ายของเราที่นั่นเหมือนกัน เศร้านะ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นอกจากกลับบ้าน...

กลับมาบ้าน ก็กินข้าวกันเล็กๆน้อยๆกันตามปกติ แล้วก็ดราม่ากัน ว่า ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป เราจะไม่อยู่ตรงนี้อีกแล้ว T___T เศร้าอ่ะ  เราเลยตั้งกล้องถ่ายรูปชีวิตประจำวันของพวกเรา ว่าวันหนึ่งพวกเราเคยนั่งอยู่ตรงนี้ด้วยกัน ครอบครัวที่สอง ^^


ไม่มีอีกแล้วภาพนี้ เศร้า TwT
 

วาราบิโมจิสุดท้ายที่มาจังทำให้กิน พร้อมกับ มัจฉะที่มีมี่ชงให้~ อร่อยที่สุดเลย 

จากนั้นเราก็ขึ้นไปอาบน้ำและเตรียมตัวนอน (ไม่วายเล่นคอม กร๊าก) พอตื่นมา มันก็ยังไม่รู้สึกว่าตื่นเต้นจะได้กลับประเทศตัวเองเลย รู้สึกเฉยจนกลัวตัวเอง - -
 

อาหารเช้ามื้อสุดท้าย T_______T

ตอนกำลังจะออกจากบ้าน มาจังก็เข้ามากอดแน่นมากๆเลย ราวกับว่าเค้ากำลังจะหายไปในตอนนั้น... ก็นะ กำลังจะหายไปจริงๆนั่นแหละ ตอนนั้นรู้สึกเศร้ามาก

ระหว่างทางไปสนามบินก็ลำบากนิดหน่อย แต่ในที่สุดก็มาถึงเวลานัดเป๊ะๆ แต่ก็เป็นปัญหาอีก เมื่อเอาของขึ้นเครื่องได้ไม่หมด ด้วยภาวะกดดัน ความเครียด และ เวลาที่เร่งรีบ (เครื่องบินดันเร่งเวลาออกเร็วขึ้น) เราเลยต้องช่วยกันทำทุกอย่าง จนได้ผลสรุปว่า เท่าที่ได้ หลอกเท่าที่ได้ นอกนั้นให้มีมี่ส่งกลับมาให้ 

ทรมาณมากอ่ะ ไม่มีเวลาเลยจริงๆวิ่งตลอด จนสุดท้ายต้องเข้าเกต ก็ยังไม่มีเวลาจะลา ก่อนเข้าเกตซักเก้าสองเก้า ทุกคนก็มามองหน้ากัน เพราะนี่คงคือเวลาสุดท้ายจริงๆ... ร้องไห้ จริงๆ ตอนนั้น เสียใจที่ไม่มีเวลาได้ลามากกว่านี้ แต่ก็โดนเร่งอยู่ตลอดเวลา เลยได้แต่คุยกันนิดหน่อย ร้องไห้ กอดกันแล้วรีบวิ่งเข้าเกตไป
 

รูปเมื่อตอนนั้น... อาจจะดูไม่ออกว่าร้อง แต่ร้องล่ะ TwT ได้แต่พูดคำว่า ขอบคุณนะคะ แล้วเราก็ต้องแยกกันอย่างรวดเร็ว... นั่งพิมพ์ตอนนี้มันก็เศร้าขึ้นมาเลยล่ะ

.

.

.
เข้าเกตยังไม่พอ ถือของเป็นสิบโล ทั้งรีบทั้งเร่ง ทั้งลุ้นว่าจะเอาของขึ้นได้หมดมั๊ย แบบทรมาณมาก อยากจะร้องไห้ รีบจนลืม พาสปอร์ตที่ตรวจคนออกนอกเมืองอีก ไม่ได้ซื้อของฝากเลย วิ่งตลอดจนถึงเครื่องบิน แบบ เฮ้อ... จริงๆเหตุการณ์เครียดและตื่นเต้นมากนะ แต่พอและ เหอๆ

และเราก็มาถึงไทยอย่างปลอดภัย ^^

ตอนเจอแม่ (ตอนแรกหาไม่เจอด้วย ต้องโทรตาม ฮ่าๆ) ร้องไห้เลย ร้องเอง รู้สึกดี เหมือนในหนังเลย กร๊ากกก =w=;; จริงๆแม่ถ่ายรูปไว้แต่รูปไม่ได้อยู่กับเรา ไว้โอกาสหน้า หุหุ

ตอนที่ก้าวเท้าออกจากเครื่องบิน สิ่งแรกคือ ร้อนวูบ ฮ่าๆ =w=;; พร้อมกับรอยยิ้มที่ยิ้มออกมาเองโดนไม่รู้ตัว คือมันแบบ ปลื้มอ่ะ... แผ่นดินไทย เว่อร์ว่ะ แต่จริงๆนะ ฮ่าๆ ต้องพยายามหุบยิ้มเดี๋ยวเขาว่าบ้า อิอิ รอบๆข้างก็มีแต่คนญี่ปุ่นที่ลงเครื่องมาด้วยกัน ในใจก็พร่ำอยู่นั่นแหละว่า 'ขอบคุณนะคะที่มาเที่ยวเมืองไทย' ท่าจะบ้าไปแล้ว ฮ่าๆ

และแล้ว เรื่องราว 1 ปีที่ผ่านมาก็จบไปได้ด้วยดี~ เกิดเรื่องมากมายหลายอย่าง ในที่สุด เมื่อผ่านมันไปได้ มันก็จะเป็นเพียงแค่ความทรงจำเท่านั้นแหละ...

ดีใจที่ได้ไป ขอบคุณแม่ที่ทำให้หนูได้ไป ขอบคุณตัวเองที่ไม่ยอมแพ้และผ่านมันมาได้ ขอบคุณโฮสและเพื่อน และคนรอบตัวที่อยู่กันมาตลอดที่ญี่ปุ่น ทั้งดีและไม่ดี แต่ก็ขอบคุณ

เรื่องเล่ามีมากมาย แต่บางทีถ้าไม่ใช่อารมณ์มันอาจจะนึกไม่ออก ถ้าไงก็ลองมาคุยกันดูก็ได้นะ ^^ และฝากสำหรับคนที่คิดจะไป ได้โปรดช่วยจำคำๆนี้เอาไว้  'อย่าคิดว่าตัวเองจะโชคดีเสมอไป และถึงแม้ว่าตัวเองจะโชคร้าย ก็ผ่านมันไปให้ได้ เพราะไม่มีใครช่วยคุณได้ นอกจากตัวคุณเอง'

.

.

.

ขอบคุณนะ ^^

เข้าโหมดส่วนตัวต่อ?

เอาตรงๆกลับมามันก็ดีใจอยู่หรอก แต่ไม่อยู่ตั้งปีนึง มันเหมือนต้องกลับมาปรับตัวด้วย ทั้งร่างกายและจิตใจ เหอๆ ร่างกายก็กลับมาป่วยหนักเลย ทั้งๆที่ปกติแข็งแรง หายไข้แล้วยังปวดไส้บิดถึงกับต้องไปฉีดยา พอเดินตลาด ก็จะเป็นลม ชีวิตชั้น แต่เดี๋ยวก็ชินแล้ว เหอๆ~

ส่วนเรื่องจิตใจก็พูดกันยาว เอาตรงๆ...ที่ไปอยู่มา มันราวกับความฝันเลยอ่ะ เราที่ทุกๆวันใช้ชีวิตแบบนี้ กลับเคยไปใช้ชีวิตอีกแบบที่ต่างประเทศ ชีวิตที่แทบจะต่างกันโดยสิ้นเชิง มัน..เหมือนฝันอ่ะ

ฝัน ไม่ได้หมายถึงไปมีความสุขกายสบายใจมา แต่เหมือนฝัน เพราะไม่นึกว่า คนที่ทุกวันใช้ชีวิตแบบนี้ๆจะไปเคยไปอาศัยอยู่ที่นั่น

นึกๆแล้วก็คิดถึงขึ้นมาทุกที คงต้องปรับตัว... อยู่ในสภาพต้องรับความจริงตอนนี้ให้ได้ มันทรมาณนะ  ถึงจะพึ่งกลับมาได้แค่ 1 อาทิตย์ก็ตามที ไม่ใช่ไม่รักประเทศไทยนะ รักมาก แต่ญี่ปุ่นก็เหมือนบ้านอีกหลังนึง ความรู้สึกที่ต้องจากบ้านมาน่ะ... ทั้งๆที่มันเป็นแค่บ้านที่ไปอยู่แค่ 10 เดือน เทียบไม่ได้กับบ้านหลังนี้ที่อยู่มาตลอดชีวิต แปลกแฮะ

ที่จริง คิดว่าคนที่เคยไปแบบเรามา คงรู้สึกเหมือนกันหมดแหละ แต่ส่วนใหญ่ทุกคน กลับมาต้องกลับไปเป็นนักเรียนอีกครั้งอย่างช่วยไม่ได้ มันเลยลดหลั่นความรู้สึกนึกคิด โหยหาไปได้โดยปริยาย แต่เรา กลับมา ต้องกลับมาเผชิญโลกจริงต่อ สอบ อ่านหนังสือเรียน หาที่เรียน หารายได้ให้ตัวเอง หารายได้ส่งตัวเองไปเรียนต่อ หาทางกลับไปในที่ๆตัวเองอยากไป ท้ออ่ะ

ตั้งแต่วันแรกที่กลับ แม่ก็บอกว่า กลับมาต้องทำอะไรบ้าง ต้องไปสมัครเรียนนะ ต้องไปสอบจบนะ ต้องงู้งี้นะ คิดดู พึ่งจบหนึ่งปีที่หนักหนาวันแรก ก็ต้องมารับรู้สิ่งที่ต้องทำต่อไปแล้ว ฟังแล้วก็หดหู่ในใจ จนเกือบจะร้องไห้... ไม่ได้อ่อนแอนะ แต่เพราะความรู้สึกยังคงติดๆค้างๆ ยังไม่ฟื้นด้วยแหละ เราไม่ใช่คนท้อซักหน่อย เดี๋ยวก็คงทำใจได้ แล้วลุกขึ้นสู้ต่อ... เราทำได้

วันก่อนไปแวะสวัสดีญาติผู้ใหญ่มา เขาก็ถามว่าจะทำยังไงต่อไป เราก็บอกว่า เราอยากกลับไปเรียน ที่ๆเราอยากไป เขาก็มองหน้าเรานิ่ง แล้วพูดคำๆนึงที่มันเสียดแทงจิตใจมาก อย่างที่ไม่เคยโดนมาก่อน... 'ถามจริง มันอยากจะเอาแต่ใจตัวเองอย่างเดียวให้ได้เลยหรอ มันไม่ได้นะ'

เกือบร้องไห้ แต่ต้องเม้มปากเอาไว้ เรารู้ตัวของเราดี แล้วเราก็รู้ด้วยว่า บางอย่าง มันก็มีสิ่งที่ต้องเลือก และเลือกไม่ได้ แต่มันใช่เสมอไปที่ไหนล่ะ? ไม่ลองก็ไม่รู้? ยังไม่ได้เริ่มเลย แล้วจะรู้ได้ยังไงว่ามันเป็นไปไม่ได้? ให้ตัดใจตั้งแต่พึ่งคิดเนี่ยนะ?

เรารู้นะ ว่าเรากำลังทำตัวให้แม่ลำบาก... และก็รู้ด้วยว่าสิ่งที่เราอยากทำมันอาจจะเป็นไปไม่ได้ แต่ใครจะรู้ล่ะ ว่าถ้าเราทำได้ มันจะเป็นยังไง... ตอนนี้มันกำลังเริ่มเท่านั้น ดังนั้น เราไม่มีเวลาให้มาท้อหรอก ต้องยืนต่อแล้วเดินได้แล้ว เวิ่นเว้อได้ แต่เสร็จแล้วก็เดินต่อไป นี่แหละทางของเรา

เรารู้ว่าถึงดึงดันยังไงไม่ได้ เราก็ต้องตัดใจ แต่ไม่ใช่ตอนนี้ เพราะเรายังไม่ได้ดึง หรือ ดันเลยด้วยซ้ำ... เอาล่ะจากนี้ไป มันจะได้ หรือ ไม่ได้ ก็ขึ้นอยู่กับเราแล้วล่ะ

ทุกคนมีความฝันนะ... ถึงแม้ส่วนมาก ทุกคนจะไม่สามารถเลือกความฝันได้ เพราะในโลกแห่งความเป็นจริง มันอาจจะไม่่มีที่ให้ความฝัน แต่เราก็ไม่อยากจะเป็นคนที่ละทิ้งความฝันก่อนที่จะต้องเลือก เพราะคนที่ทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริงได้ ก็มีอยู่ไม่น้อยเหมือนกัน 

ต่อจากนี้จะเป็นการเดินทางครั้งใหม่แล้วล่ะ... ^^

OVER?

ปล. เรื่องรับสอนภาษาญี่ปุ่น ยังเดินหน้าเต็มกำลังนะคะ รายละเอียดตามที่เคยเขียนไว้ หรืออยากสอบถามหลังไมค์ได้เลยจ๊าา ส่วนเรื่องสถานที่นั้น เมื่อมาพิจารณาอีกที ถ้าที่ไหนที่เราไม่เคยไปจริงๆ หรือ ไม่คุ้มจริงๆ เราคงต้องขอปฏิเสธเรื่องนี้ต้องขอโทษด้วยนะคะ Y_Y

ปล. โปรเจคริวของเรา ตอนนี้จัมพ์ยังไม่เข้ามาดูวิดิโอเลย... แต่ว่ารอต่อไปเนอะ ไม่งั้นก็ช่วยกันส่งไปเพิ่ม แต่เดี๋ยวไว้วางแผนกันทีหลังนะ ^^

ปล.มีแววว่า ข้าพเจ้าต้องย้ายบล็อคในเร็ววัน เพราะเมมเต็มอีกแล้ว ToT