จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันอังคารที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2556

บันทึก ณ โอซาก้า วันที่ 29-30 ธันวาคม 2013

ย้า~!

ไม่ได้เขียน Blog มาจะปีนึงแล้วเน๊อ~~ ตื่นเต้นจัง ฮ่าๆ 
ที่จริงมีแต่คนเรียกร้อง แต่ก็ไม่เขียนซักที คนดังนี่เหนื่อยนะ (◉◞౪◟◉`) *ถุย*

การตัดสินใจกลับโอซาก้าครั้งนี้ กระทันหันมากค่ะ เมื่อตัดสินใจอะไรบางอย่างได้แล้ว ก็ตัดสินใจโทรกลับมาที่บ้านโอซาก้า คุยไปคุยมาเลย อืม กลับบ้านโอซาก้าเถอะสิ้นปีนี้... แล้วก็จองตั๋วมาเลย ฮ่าๆ! นับว่าโชคดีมากที่ได้ตั๋วเที่ยวบินดีๆใบสุดท้ายพอดี ขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ *สาธุ*

อาทิตย์ก่อนที่จะมาญี่ปุ่นยุ่งมาก ทำนู่นทำนี่ ออกจากบ้านทุกวัน แถมยังรู้สึกเบื่อๆอีก กว่าจะจัดกระเป๋าก็... ก่อนขึ้นเครื่อง กร๊ากกกกกกกกกกกกกก 
ที่ว่าจัดกระเป๋าเนี่ย มีแต่ของฝากนะ เสื้อผ้าก็หยิบๆๆเอา *ก็มันหนาวนี่นา ใส่เสื้อโค๊ตก็ปิดหมดแล้ว*


ตามรูปเลย กระเป๋าสองใบแลดูเหมือนไปนมนานนนน กรั่กๆๆๆ สองใบรวมกันยังไม่ถึง 1 ใบในทุกครั้งที่แบกไปญี่ปุ่นเลย ฮ่าๆ

เสื้อผ้าเค้าแค่ สองโลเองอ่ะ นอกนั้นของฝาก กับ น้ำหนักกระเป๋า.... เอามาน้อยมากจริงจัง มีแววจะทิ้งเสื้อผ้าไว้ที่บ้านด้วย หึหึหึ

เครื่องขึ้น ตี 2 อาบน้ำตอนหกโมง แล้วออกมาแฟชั่น *ห้างข้างบ้านอีกแล้ว* สามทุ่มครึ่งไปสนามบินแล้วก็รอ Zzzz

เป็นการเดินทางที่เหนื่อยมาก ปกตินั่งแต่การบินไทย แล้วมีคนจัดการจองตั๋วให้ทุกอย่าง อันนี้ทำเองหมดเลย ค่อนข้างตื่นเต้นนะ ฮ่าๆ
แล้วคือ ปกติการบินไทยจะบินตรง และพูดเป็นภาษาไทยเลยไม่ต้องอะไรมากมาย แต่ครั้งนี้เป็นสายการบินจีน ก็จะมีแต่ภาษาจีนกับภาษาอังกฤษ แล้วด้วยความที่เป็นสายการบิน low cost เราก็กลัวดิ ประกาศแต่ละทีจะตื่นมาฟังตลอด แล้วดันประกาศบ๊อยยยบ่อย =_=;; แล้วไม่มีสาระซักรอบบบบบ *ฮ่วย*

คือง่วงมาก ขึ้นเครื่องก็พยายามนอนเลย ก็นอนได้นะเพราะง่วง แต่ก็ไม่สนิทหรอก ผ่านไป 2 ชั่วโมงเท่านั้นแหละ โดนปลุกมาตอนตี 4 ครึ่ง กินข้าวเช้า =_=; แต่คือ ต้องตื่นมากินเพราะว่า หิว แล้วก็เดี๋ยวต้องไป via เครื่อง แล้วการซื้อของกินที่ประเทศอื่นมันอาจจะยุ่งยาก เลยกินตุนเอาไว้ก่อนดีกว่า


มื้อแรกอร่อยนะ เราชอบมาก เป็นรสชาติแบบผัดหมี่ซั่ว แต่เป็นเส้นสปาเกตตี้อ่ะ ใส่ปลา อร่อยจริงๆ ชอบๆๆ เลยฟิน ฮ่าๆ





จากนั้น 6.40 โดยประมาณก็ถึงเซี่ยงไฮ้ ต้องรอเครื่อง 2 ชั่วโมง ไม่นานมาก ชาร์ตแบตเต็มพอดี ฮ่าๆ แต่คือในเครื่องบินมันอุ่นมากไง พอเดินออกมาเท่านั้นแหละ... ดีนะ ที่ถือเสื้อโค้ตไว้ แต่ฟินบอกไม่ถูก คิดถึงอากาศแบบนี้ ตอนนั้น น่าจะราวๆ 5-7 องศา แหละมั้ง

แต่ ด้วยความที่ไม่ได้นอน ตรงๆว่าง่วงมาก เหนื่อย เพลียอ่ะ Wifi ก็ต่อไม่ได้ ไรก็ไม่รู้ ถามฝรั่งที่นั่งด้วยกัน เขาก็บอกว่า "I couldn't so" Orz เลยนั่งเหม่อรอ ฮ่าๆ!



อ้อ ตอนลงมาจากเครื่อง คือตรงนั้นเป็น Duty Free ไง เลยเดินชม เข้าห้องน้ำไรเงี้ย เจอแชมเปญ ขวดนี้... ที่พี่ไดกิงซื้อให้ เพื่อนที่เป็น DJ วันแต่งงาน อยากกินอ่ะ ฮ่าๆ เดี๋ยวขากลับ... อายุ 19 ซื้อได้ป่ะ Orz 

ประทับใจสนามบิน ปูดอง ของ เซี่ยงไฮ้อย่างหนึ่ง คือ มีน้ำร้อน ให้กดฟรีตลอดทั้งสนามบิน ไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่ดีใจมากๆ คือ อยากกินน้ำ แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องแลกตังค์ก่อนรึเปล่าไง ถ้าจะซื้อ หันไปเจอพอดี ฟินมากๆ กำลังจะเดินเข้าไปกด ก็มี พนง. ผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามากดก่อน นางจะกดปุ่มแล้วนะ แต่นางเห็นเรา นางก็ถอยให้ แล้วกวักมือแบบ คนจีนอ่ะ *แบบ โผงผาง* แล้วพูดญี่ปุ่นใส่เรา ฮ่าๆ ถามว่าคนญี่ปุ่นใช่มั้ย ก็แบบ เอ่อ... แล้วนางก็กดให้ ฮ่าๆ 

ที่จริงคือนางกดให้เสร็จก่อนก็ได้นะ เพราะยังไงนางก็มาก่อน แต่คงเพราะปุ่มมันเยอะแล้วเป็นภาษาจีนนางเลยเป็นห่วงเรา ดีจัง เจอคนใจดี


ซักพักพอชาร์ตแบตเต็ม ก็ได้ขึ้นเครื่อง จากเซี่ยงไฮ้-โอซาก้า ใช้เวลา 1.45 ชั่วโมงโดยประมาณ ได้นั่งข้างคนญี่ปุ่นที่น่าจะอยู่ที่เซี่ยงไฮ้มานาน *ป้าแกพูดได้สองภาษาเลยอ่ะ แต่คิดว่าคนญี่ปุ่นเพราะเวลาอุทาน หรือ อะไรจะพูดญี่ปุ่นตลอด* คือ ป้าก็คิดว่าเราเป็นคนญี่ปุ่น พูดญี่ปุ่นด้วยตลอด เวลาทำนู่นนี่ *แต่ก็ใจดีนะ* ฉันว่าฉันดูน่าจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนจีนมากกว่านะเออ... แต่ก็แอ๊บพูดอังกฤษ ฮ่าๆ!

รูปด้านบนคืออาหารเที่ยง นี่ก็หลับได้นิดเดียว โดนปลุก เฮ้อ ตรงๆว่า ร่างกายเริ่มไม่ไหวแล้ว ท้องเริ่มอืด *เวลาเพลีย กินข้าวไม่ตรงเวลา นอนไม่หลับ มักจะเป็น* อาหารก็รสชาติโอเคนะ แต่ด้วยความที่ร่างกายไม่โอแล้ว เลยกินได้อย่างละ คำสองคำ เสียดายเหมือนกันแหละ...

เที่ยวบินรอบนี้ดีอย่าง เขาร่วมมือ กับ Japan Airline ด้วย เลยฟังภาษาญี่ปุ่นเอาไว้เวลาเขาประกาศ สบาย อิอิ

พอลงเครื่องปุ๊บ จะว่าตื่นเต้นรึยังไงดี จนถึงวันนี้ ยังเฉยๆอยู่เลย คงเพราะท้องอืด กับ เดิมทีความรู้สึกช้าอยู่แล้ว ฮ่าๆ ตอนอยู่ ตม. ตื่นเต้นนิดๆ แต่เราพูดญี่ปุ่นได้ เลยผ่านสบาย

เป็นการเดินทางที่เหนื่อยมาก ปกตินั่งแต่การบินไทย แล้วมีคนจัดการจองตั๋วให้ทุกอย่าง อันนี้ทำเองหมดเลย ค่อนข้างตื่นเต้นนะ ฮ่าๆ
แล้ว คือ ปกติการบินไทยจะบินตรง และพูดเป็นภาษาไทยเลยไม่ต้องอะไรมากมาย แต่ครั้งนี้เป็นสายการบินจีน ก็จะมีแต่ภาษาจีนกับภาษาอังกฤษ แล้วด้วยความที่เป็นสายการบิน low cost เราก็กลัวดิ ประกาศแต่ละทีจะตื่นมาฟังตลอด แล้วดันประกาศบ๊อยยยบ่อย =_=;; แล้วไม่มีสาระซักรอบบบบบ *ฮ่วย*

คือง่วงมาก ขึ้นเครื่องก็พยายามนอนเลย ก็นอนได้นะเพราะง่วง แต่ก็ไม่สนิทหรอก ผ่านไป 2 ชั่วโมงเท่านั้นแหละ โดนปลุกมาตอนตี 4 ครึ่ง กินข้าวเช้า =_=; แต่คือ ต้องตื่นมากินเพราะว่า หิว แล้วก็เดี๋ยวต้องไป via เครื่อง แล้วการซื้อของกินที่ประเทศอื่นมันอาจจะยุ่งยาก เลยกินตุนเอาไว้ก่อนดีกว่า


มื้อแรกอร่อยนะ เราชอบมาก เป็นรสชาติแบบผัดหมี่ซั่ว แต่เป็นเส้นสปาเกตตี้อ่ะ ใส่ปลา อร่อยจริงๆ ชอบๆๆ เลยฟิน ฮ่าๆ




จากนั้น 6.40 โดยประมาณก็ถึงเซี่ยงไฮ้ ต้องรอเครื่อง 2 ชั่วโมง ไม่นานมาก ชาร์ตแบตเต็มพอดี ฮ่าๆ แต่คือในเครื่องบินมันอุ่นมากไง พอเดินออกมาเท่านั้นแหละ... ดีนะ ที่ถือเสื้อโค้ตไว้ แต่ฟินบอกไม่ถูก คิดถึงอากาศแบบนี้ ตอนนั้น น่าจะราวๆ 5-7 องศา แหละมั้ง

แต่ ด้วยความที่ไม่ได้นอน ตรงๆว่าง่วงมาก เหนื่อย เพลียอ่ะ Wifi ก็ต่อไม่ได้ ไรก็ไม่รู้ ถามฝรั่งที่นั่งด้วยกัน เขาก็บอกว่า "I couldn't so" Orz เลยนั่งเหม่อรอ ฮ่าๆ!


อ้อ ตอนลงมาจากเครื่อง คือตรงนั้นเป็น Duty Free ไง เลยเดินชม เข้าห้องน้ำไรเงี้ย เจอแชมเปญ ขวดนี้... ที่พี่ไดกิงซื้อให้ เพื่อนที่เป็น DJ วันแต่งงาน อยากกินอ่ะ ฮ่าๆ เดี๋ยวขากลับ... อายุ 19 ซื้อได้ป่ะ Orz 

ประทับ ใจสนามบิน ปูดอง ของ เซี่ยงไฮ้อย่างหนึ่ง คือ มีน้ำร้อน ให้กดฟรีตลอดทั้งสนามบิน ไม่ได้ถ่ายรูปมา แต่ดีใจมากๆ คือ อยากกินน้ำ แต่ก็ไม่รู้ว่าต้องแลกตังค์ก่อนรึเปล่าไง ถ้าจะซื้อ หันไปเจอพอดี ฟินมากๆ กำลังจะเดินเข้าไปกด ก็มี พนง. ผู้หญิงคนนึงเดินเข้ามากดก่อน นางจะกดปุ่มแล้วนะ แต่นางเห็นเรา นางก็ถอยให้ แล้วกวักมือแบบ คนจีนอ่ะ *แบบ โผงผาง* แล้วพูดญี่ปุ่นใส่เรา ฮ่าๆ ถามว่าคนญี่ปุ่นใช่มั้ย ก็แบบ เอ่อ... แล้วนางก็กดให้ ฮ่าๆ 

ที่จริงคือนางกดให้เสร็จก่อนก็ได้นะ เพราะยังไงนางก็มาก่อน แต่คงเพราะปุ่มมันเยอะแล้วเป็นภาษาจีนนางเลยเป็นห่วงเรา ดีจัง เจอคนใจดี


ซัก พักพอชาร์ตแบตเต็ม ก็ได้ขึ้นเครื่อง จากเซี่ยงไฮ้-โอซาก้า ใช้เวลา 1.45 ชั่วโมงโดยประมาณ ได้นั่งข้างคนญี่ปุ่นที่น่าจะอยู่ที่เซี่ยงไฮ้มานาน *ป้าแกพูดได้สองภาษาเลยอ่ะ แต่คิดว่าคนญี่ปุ่นเพราะเวลาอุทาน หรือ อะไรจะพูดญี่ปุ่นตลอด* คือ ป้าก็คิดว่าเราเป็นคนญี่ปุ่น พูดญี่ปุ่นด้วยตลอด เวลาทำนู่นนี่ *แต่ก็ใจดีนะ* ฉันว่าฉันดูน่าจะถูกเข้าใจผิดว่าเป็นคนจีนมากกว่านะเออ... แต่ก็แอ๊บพูดอังกฤษ ฮ่าๆ!

รูปด้านบนคืออาหารเที่ยง นี่ก็หลับได้นิดเดียว โดนปลุก เฮ้อ ตรงๆว่า ร่างกายเริ่มไม่ไหวแล้ว ท้องเริ่มอืด *เวลาเพลีย กินข้าวไม่ตรงเวลา นอนไม่หลับ มักจะเป็น* อาหารก็รสชาติโอเคนะ แต่ด้วยความที่ร่างกายไม่โอแล้ว เลยกินได้อย่างละ คำสองคำ เสียดายเหมือนกันแหละ...

เที่ยวบินรอบนี้ดีอย่าง เขาร่วมมือ กับ Japan Airline ด้วย เลยฟังภาษาญี่ปุ่นเอาไว้เวลาเขาประกาศ สบาย อิอิ

ลงเครื่องปุ๊บ จะว่าตื่นเต้นรึยังไงดี จนถึงวันนี้ ยังเฉยๆอยู่เลย คงเพราะท้องอืด กับ เดิมทีความรู้สึกช้าอยู่แล้ว ฮ่าๆ ตอนอยู่ ตม. ตื่นเต้นนิดๆ แต่เราพูดญี่ปุ่นได้ เลยผ่านสบาย

พอออกมามี มี่ก็มารับ วิ่งเข้าไปกอดแล้วก็ "กลับมาแล้วน้าาา" มีมี่ก็ "ยินดีต้อนรับกลับบ้านนน มีความสุขนะ จริงๆ แต่ด้วยที่ ตอนกลางคืนมีกินเลี้ยงรวมญาติ นัดตอน 5 โมง แต่เราออกมาจากเกตได้ตอน บ่ายโมง แถมต้องทำธุระเอาซิมเน็ตในนั้นอีก รีบใหญ่เลย ไม่มีเวลาได้ซึมซับอ่ะ ฮ่าๆ ถึงบ้านก็ดีใจ๊ดีใจบอกตรงๆ มาจังรออยู่ในบ้าน เดินเข้ามาแล้วพูด ว่ากลับมาแล้ว มาจังก็เดินมากอด แล้วยินดีต้อนรับกลับบ้าน อิอิ เหมือนเมื่อก่อนเลย ♪♪

 แต่ด้วยความที่ 4 โมงแล้ว เลยรีบวางของ แต่งหน้าใหม่ แล้วหยิบข้าวปั้นที่ซื้อมากินๆ แล้วรีบออกไปกัน แย่สุดๆ เพราะท้องอืดไม่ไหวแล้ว แงงงง ได้ผ่านเส้นทางแห่งความหลังมากมาย แต่รีบ เลยไม่ได้ดื่มด่ำ เหอๆๆ



ในที่สุดก็ถึง โกเบ มาที่หน้าร้านเนื้อย่างที่นัดกันเอาไว้ *แต่เป็นเนื้อจากจังหวัด ยามากาตะ ตึ่ง!* เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปมา เข้าใจหน่อยคือ ปวดท้องมาก ฮ่าๆ เรียวจังกับมิกกิจัง*แฟนเขา ลูกครึ่งฟิลิปปินแต่พูดญี่ปุ่นไม่ได้* ก็เดินมาหา เรียวจังหล่อกว่าเดิมมม เรียวจังมากอดด้วย แอร๊ยย คิดถึง จากนั้น นัตจัง ก็จูงมือคันนะมาาา

คิดถึ๊งง คิดถึงงงงงง คันนะ เป็นอะไรไม่รู้ เขินอาย บิดไปบิดมา แต่พอกินไปได้ซักพักอยู่ๆก็คึก เหมือนคนเมา ฮ่าๆ แต่ตอนแรกที่เจอ น่าร๊ากกกก เด็กไรไม่รู้ ฮืออ เกลียดเด็กนะ แต่รักคันนะะะ

เราก็ถามว่า จำพี่สาวได้มั้ย พี่สาวอุ้มคันนะบ่อยๆตอนคันนะเด็กๆนะ คันนะบอกจำได้ ดีใจ H(APP' ∀`Y)

แล้วครอบครัวของพี่สาว มีมี่ ก็มา สนุกมากๆ อาหารก็อร่อย จองห้องส่วนตัวเอาไว้ สนุกจริงๆ คุยกัน เหมือนครอบครัวกันจริงๆนะ ฮ่าๆ จนลืมไปเลยว่า เราไม่ได้เป็นญาติกันจริงๆ ฮ่าๆ คือ บ้านนี้จะเรียกคนในครอบครัวต่อด้วย "จัง" หมด เราเลยไม่เกร็งด้วย สนุกจริงๆ

แต่โดนบังคับให้สั่งแอลกอฮอลมากิน เลยสั่งไวน์มา ไม่อร่อยเลย T_T แต่มันแพง ไม่กล้ากินเหลือ แต่สุดท้ายก็ไม่ไหว *ไม่ชอบอ่ะ* เหลืออยู่นิดนึงเลยส่งต่อ กระดกไม่ไหวแล้ว ฮ่าๆ ท้องก็ปวด ทรมาณตรงนี้นี่แหละ

หลานสาวมีมี่ก็พา ลูกชายที่พึ่งเกิดมาด้วย โอวว สนุกจริงๆ


ทัคคุง อายุ 7 เดือนน~ เป็นเด็กที่ตัวใหญ่มากๆอ่ะ ตกใจเลย เหอๆ


แอบดูราคาตอนเช็คบิล เกือบ 2 หมื่นบาทเลยนะ แต่กินกันเยอะมาก ถูกกว่าตอนไปกินกันสามคนอื่น สามคนหมื่นบาท อันนี้ตั้ง เกือบสิบคน ฮ่าๆ ที่จริงวันที่ 3 ชวนออกไปดื่มอีกแต่เรานัดจูริจังไว้♪ ตอนกลางคืนเขาก็ชวนไปต่อ แต่บอกตรง ไม่ไหวแล้ว ไม่ได้นอน แถมท้องอืดอีก อยากกลับบ้านมากๆ ณ จุดนั้น

เลยแยกย้ายกลับบ้าน เรียวจังเลยพามิกกิจังไปต่อ บ้านเราเลยเงียบ แต่ก็ดี ฮ่าๆ *ที่จริงนอนด้วยกันไง*

ตอนขากลับ ระหว่างทางเจอโปสเตอร์ฮันเตอร์ แสดงพลังโอตะซักหน่อย ทั้งๆที่ไม่ไหวแล้ว กร๊าก


อิอิ เดี๋ยวจะไปดูววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววววว

พอแยกย้าย ก็เดินจูงมือคันนะ กลับ อิอิ น่ารักจริงๆ บนรถไฟก็เล่นนู่นเล่นนี่ ตลกดี ฮ่าๆ มาแยกกันอีกทีก็ สถานีใกล้บ้าน แล้ว วันปีใหม่ เจอกันอีกกกกก ตื่นเต้นๆ

กลับมาสลบจ้า ดีนะที่จู่ๆก็เอาลมในท้องออกได้ มันป่องเหมือนคนท้อง ทรมาณมากเลย พอจัดที่นอน อาบน้ำอะไรเสร็จ จิบชาร้อนๆของมาจัง เหมือนทุกวันในวันวาน แล้วก็แยกตัวไปนอน Zzz

วันที่ 31 

ที่จริงวันนี้จะไป USJ กับพวกเรียวจัง แต่ขี้เกียจ ไม่อยากไปเจือกคู่รักด้วย เลยแอบโกหกว่าเหนื่อย พอเช้ามา เรียวจังบอกว่า ไม่ไปแล้วเพราะเราไม่ไป คือ เสียใจอ่ะ เหมือนทำให้เขาอดเที่ยวเลย T_T

.... เดี๋ยววันนี้บ่ายๆ ว่าจะออกไปซื้อของใช้ในเมืองซักหน่อยละกัน เมื่อวานเดินไปในเมือง แต่ต้องรีบขึ้นรถไฟเลยไม่ได้ดูอะไรเลย เย้~ แล้วตอนกลางคืนกับมาเค้าดาวน์กับ JUMP!

..

...

.....

อ้อ ดีใจได้นอนห้องตัวเอง ได้มากินอาหารเช้ามาจังอีก มีความสุขมากวันนี้ ทั้งๆที่ ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบนี้มานานแล้ว แต่พอกลับมา ก็รู้สึกราวกับมันพึ่งผ่านไปเมื่อวานเอง อิอิ


ผ้าห่มหนามาก หนักจนขยับไม่ได้ ฮ่าๆ ตื่นมาอุ๊นอุ่นนนนน เดินออกจากห้องเท่านั้นแหละ สะท้านนนน


ขนมปังฝรั่งปิ้งกับเนย+ส้มกล้วยเยลลี่+และมิลค์ทีชาของศรีลังกา อร่อยยยย

จบแล้วล่ะ เหตุการณ์จนถึง ณ เวลานี้ แล้ว เดี๋ยวจะเขียนบันทึกอีกน้าาาา

ตอนนี้แค่นี้ก่อนล่ะ บ๊ายบายยย