จำนวนการดูหน้าเว็บรวม

วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

ร้องไห้///ข้อความถึงเพื่อนของเค้า///โชว์ทางกลับบ้าน กับ โรงเรียนญี่ปุ่น

ได้เรื่องซักที~ ตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วพยายามถ่ายรูปบรรยากาศสวยๆของแถวนี้กับที่โรงเรียนเอาไว้ หวังจะมาเล่าให้ทุกคนฟัง แต่ทุกวันไปมันก็มีแต่อะไรก็ไม่รู้ สงสัยพลังวิญญาอ่อนแอ = =b

.

.

.

ก่อนที่จะเอารูปให้ดู อยากพูดอะไรซักหน่อยจัง

อาทิตย์ที่แล้วเป็นที่แบบว่ามาก (อาทิตย์ที่แล้วเนี่ย รวมเมื่อวานด้วยนะ) แบบว่าหมายถึง ร้องไห้ล่ะ..ยิ่งเมื่อวานร้องไปสองรอบเลย กับแม่รอบนึง กับ ปะป๊ารอบนึง...

อยากจะเขียนไว้ เผื่อคนที่ได้ผ่านเข้ามาในบล็อกนี้จะได้อ่านแล้วได้แนวทางอะไรบ้าง..

เค้าจะไม่พูดเรื่องการสอบที่ว่าเครียดแล้ว มันผ่านไปแล้ว (แม้จะมีสอบของ ปี 1 อีก แต่ก็ไม่มีอะไรน่ากลัวแล้วล่ะ) แต่เค้าอยากจะพูดเรื่อง "เรื่องไรวะ?" - -;; ไม่รู้แฮะ เออช่างเหอะ

เรื่องแรก...ที่เค้าร้องไห้กับแม่ (พิมพ์คุยนะ ไม่รู้แม่รู้รึเปล่าว่าร้องไห้้) ปล.ไม่ได้ยินเสียงแม่มาเดือนนึงแล้วล่ะ อดทน ^^;

เมื่อวาน วันอาทิตย์ เป็นธรรมดาที่จะเหงา แล้วก็ฟุ้งซ่าน คือแบบ วันหยุดจะหมดแล้วใช่มั๊ย แถมวันจันทร์ (ซึ่งก็คือวันนี้) มีสอบที่เกลียดอีก แล้วเมื่อวานก็นั่งเล่นคอมทั้งวัน (ไม่อยากทำอะไรอ่ะนะ) เงียบๆคนเดียว จนค่ำ เป็นธรรมดาที่จะฟุ้งซ่าน...รู้ก็รู้ แต่ก็ไม่ลุกออกไปข้างนอก (ก็แหม ไม่อยากเดินนี่ แค่ทุกวันขี่จักรยานก็ปวดขาจะแย่อยู่แล้ว TT)

วันนั้นก็คุยกับแม่ไปเรื่อย...แล้วก็มาพูดว่า หนูไม่อยากไปโรงเรียนเลย แต่ยังไงก็ต้องไป ไม่อยากหนี แล้วก็พูดไปเรื่อยระบายน่ะ สุดท้าย "ที่โรงเรียนก็ไม่มีเพื่อน..." เรื่องนี้แหละที่ทำให้ร้องไห้

คือจะว่าไม่มีเพื่อนมันก็ไม่ใช่อ่ะนะ แต่มันก็เหมือนไม่มี...เราก็รู้เข้าใจ เราก็ไม่ได้อะไรเท่าไหร่ เริ่มชินแล้ว อีกอย่างก็ไม่ค่อยแคร์เท่าไหร่  - - แต่ว่านะ เวลาที่เดินไปเรียนคนเดียว ทำอะไรคนเดียว มันจะรู้สึกเหมือนว่า ตัวเองถูกมองว่าน่าสงสาร...

มันก็คงคิดไปเองอ่ะแหละนะ แต่ก็ไม่แปลกใช่มั๊ย...นั่นแหละที่ทำให้เหงาและเสียใจ ถึงจะชินแล้วก็เหอะ ชินแล้วจริงๆนะ แต่ถ้าพูดทีก็อดไม่ได้

แต่แม่ก็พูดเรื่องเพื่อนที่ไทยให้ฟัง ว่าเราไม่ได้น่าสงสาร เพื่อนของเราก็มีเพียงแต่ตอนนี้เราต้องแยกกันเท่านั้นเอง ส่วนเพื่อนที่โรงเรียนก็ไม่ต้องสนใจ นี่แหละผู้ใหญ่ มีตัวเองเป็นเพื่อน มีงานเป็นเพื่อน มีหนังสือเป็นเพื่อน นี่แหละเรื่องจริง พอออกมาทำงานจริง ทุกคนก็เป็นแบบนี้กันหมด ซึ่งมันก็จริง... ตอนนั้นร้องไห้เลย ฝืนแล้วแต่ก็น้ำตาไหลแหมะๆ ไม่หยุด

ตอนนั้นโฮสนั่งเล่นอยู่ข้างๆอ่ะ โฮสอีกคนก็ยืนอยู่ฝั่งตรงข้าม เขาคงเห็นแหละแต่เขาก็ทำตัวปกติอ่านะ เหอๆ เขาคงไม่กล้าพูดอะไร ซึ่งดีแล้วล่ะ TT

จริงๆก็ตอบไม่ได้นะว่า ร้องทำไม...เพียงแต่นะ อืม ฮ่าๆ อ่านแล้ว งง อ่ะดิ งงเหมือนกัน - - แต่บอกแล้ว นี่บล็อกเค้า ใครจะทำไม =3=

พอดีวันเสาร์ก็คุยกับเพื่อนที่โรงเรียน คุยกับยูเมะ ยูริ(น้องยูเมะ เราเป็นเพื่อนสนิทกัน) อือ ไม่ได้คุยกับเพื่อนที่คุยนาน กับปาร์ตี้ (ตอนนี้มันอยู่อังกฤษแล้ว หลั่นล้าเชียว - -) นั่นแหละ แล้วก็จูจุ๊ (เพื่อนรักคบกันมาตั้งสิบกว่าปีแล้วนะแก ฮ่าๆ มาอ่านรึเปล่า ถ้าอ่านกลับไปคงโดนดักตบแหง =3=) คงทำให้คิดถึงเพื่อนแล้วปลื้มใจไม่ได้ ว่าเราไม่ได้อยู่ตัวคนเดียว ซึ้งมาก

นั่นแหละนะ พอแม่พูดอะไรเข้า เลยร้องไห้เลย แต่มันก็ทำให้เราโล่งใจขึ้นแล้วว่า เราไม่ได้อยู่คนเดียว เราก็มีเพื่อนของเรา คนของเรา เพียงแต่ว่าตอนนี้ เราไม่ได้อยู่ในที่ของเรา และมีคนของเราอยู่ข้างๆเท่านั้นเอง ซึ่งไม่ได้หมายความว่าเราเดียวดาย...

จริงๆ เค้าก็คิดถึงจุดนี้ตลอดนะ ว่าเรามีเพื่อน มีพี่ๆ แก๊งลูกเป็ดเกิบแตะรอริว...... ไม่อยากต่อที่เหลือ - - แล้วก็เพื่อนๆแฟนจัมพ์อีกมากมาย คอยอยู่เคียงข้าง พูดกี่ทีก็อดมีความสุขไปไม่ได้ แต่มันก็หลายเวลาที่ มักจะยังคิดว่าตัวเองอยู่คนเดียว อย่าโกรธเค้านะ...

หลังจากคุยกับแม่เสร็จ ก็ได้คุยกับยูเมะต่อ อย่างที่บอกว่าตอนนี้ยูเมะก็ไปเรียนที่อเมริกาเหมือนกัน เราต่างคนต่างเจอปัญหา แต่เราก็ยังคอยให้กำลังใจกันเสมอ เมื่อวานก็เป็นอีกวันหนึ่ง ซึ่งทุกครั้งยูเมะกับเราก็จะมีความรู้สึกหลายๆอย่าง ปัญหาหลายๆอย่างคล้ายกันเสมอ เราเลยช่วยปลอบ ช่วยให้กำลังใจกันได้

นั่นแหละสำคัญ...ในบางเวลาที่เพื่อนของเรา อ่อนแอ (ไม่ได้หมายความว่าอ่อนแอแบบน่าสงสารนะ หมายถึง จิตใจไม่ค่อยสบายน่ะ ^^;) แม้ว่าเราก็ยังทุกข์ยังอ่อนแอ ยังเอาตัวเองให้รอดไม่ได้ไม่ต่างกัน แต่เพราะเพื่อนอ่อนแอ เราจึงอยากจะเข้มแข็ง และเป็นกำลังให้เพื่อนแทน นี่แหละ เป็นอีกจุดหนึ่งของพลังที่สำคัญนะ ^^

จากตรงนี้อาจจะไม่เกี่ยว แต่ยังไงก็ขอเขียนหน่อยนะ ^^ ไหนๆก็เขียนเรื่องเพื่อนแล้ว...

"เค้าน่ะยังเอาตัวเองไม่รอด ก็ไม่มีสิทธิ์พูดอะไรดีๆหรือให้กำลังใจใครเขาได้หรอก แค่ประคองตัวเองให้ต่อสู้มาได้แต่ละวันน่ะ ก็เหนื่อยจะแย่แล้ว แต่เพราะว่าเพื่อนกำลังเป็นทุกข์ เค้าเลยอยากเข้มแข็งขึ้นแล้วเป็นกำลังให้กับเพื่อนได้ นั่นแหละที่เค้าทำอยู่ทุกวัน ปกติเราก็ส่งเมล์คุยกันตลอดอ่ะนะ แต่มันเป็นภาษาญี่ปุ่นเลยอาจจะพูดยากซักหน่อย เลยอยากจะมาพูดในนี้แทน ไม่อยากโทรไปพูดเรื่องนี้หรอก อาย... แกเป็นเพื่อนคนแรกที่แม้ว่าตัวเค้าเองก็ยังไม่ไหว แต่ก็อยากจะไปร่วมทุกข์อยู่กับแกข้างๆ วันแรกหลังจากแยกกันไปที่ได้คุยกัน พอรู้ว่าแกเจอปัญหา ทั้งๆที่เค้าเองก็เจอปัญหา แต่เค้าก็ยังอยากจะไปอยู่กับแก อยากจะไปทุกข์กับแก ไม่อยากให้แกสู้คนเดียว แปลกเนอะ ไม่ใช่ว่าเค้าคิดว่าแกอ่อนแอ ทำอะไรเองไม่ได้ ต่อสู้ไปเองไม่ได้ ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกนะ มันรู้สึกว่าอยากร่วมทุกข์ร่วมสุขอ่ะ ไอ้ยูเมะแกกำลังหัวเราะอยู่ใช่มั๊ย! - - จะหัวเราะก็หัวเราะไป แต่นะ เรื่องนี้อยากพูดจริงๆ เพราะงั้น สู้ต่อไปด้วยกันนะ คุยกันทุกวัน วันละนิดวันละหน่อยแบบนี้ต่อไปนะ ^^"

จบ...เหมือนมาสารภาพรักเลยว่ะ กร๊ากกก ป่าวนะ - -

ไม่ใช่แค่ยูเมะหรอกนะ แต่สำหรับเพื่อนทุกคน (ที่คิดว่าเค้าเป็นเพื่อนด้วยอ่าน้ะ) ขอบคุณมากที่คอยติดต่อ ขอบคุณมากที่อยู่ให้เค้าภูมิใจว่าเค้ามีเพื่อนที่แสนดี ไม่ใช่คนน่าสงสาร และไม่มีเพื่อนที่นี่ ขอบคุณนะ!

.

.

.

นี่พิมพ์ไปไปช่วยโฮสทำแกงมัสมั่นนะเนี่ย - - กินได้ป่าวก็ไม่รู้ เหอๆ
.

.

.

ต่อครึ่งหลัง (อ้าว!?) พอดีหลังจากทำเสร็จก็ปิดไปกินข้าวอ่านะ แล้วก็อาบน้ำมาต่อเนี่ยแหละ เพราะงั้นฟีลเปลี่ยนแล้ว - -



ต่อไปเรื่องที่สอง...ความกดดัน


อยู่ที่นี่กดดันจริงๆนะ ทุกคนรู้รึเปล่าว่าเค้าเจออะไรบ้าง...การดูถูก แม้จะมาจากเพียงคนแค่คนสองคน แต่มันก็มากพอแล้ว 

มาที่นี่ เราต้องแบกรับกับคำว่า "คนไทย" เอาไว้ เพราะงั้นจะทำอะไรต้องทำให้ดีที่สุดและต้องคิดให้ดีก่อนทำด้วย

ถึงตรงนี้คง งง ว่าดูถูกยังไง กับนักเรียนไม่มีอะไรหรอก แต่กับครู..ที่โรงเรียนเรา มีนักเรียนต่างชาติสามคน ฟินแลนด์ อเมริกา แล้วก็เราคนไทย 

จริงๆเราสามคนสนิทกันนะ เพียงแต่พวกครูเท่านั้นเอง (แค่บางคนนะ) คงเห่อฝรั่งแหละมั้ง หัวทอง พูดญี่ปุ่นก็ไม่ค่อยได้ เลยโอ๋ใหญ่ - - แต่กับเราคนเอเชียเหมือนกัน เขาเลยไม่สนใจ อีกอย่าง คงเพราะคนไทยด้วยแหละ...

อย่างที่ทุกคนรู้ ก็ญี่ปุ่นเขาพัฒนาแล้วนี่นา กับประเทศเรา เขาก็มองว่ามันไม่ได้พิเศษอะไรนักหนาหรอกจริงมั๊ย? แต่หลายคนเขาก็มองว่าประเทศเราสุดยอดในหลายๆด้านนะ ไม่ต้องห่วง ^^ โดยเฉพาะเรื่องที่ไทยไม่เคยตกเป็นของชาติใด นี่แหละที่สุดยอดจริงๆและคนญี่ปุ่นที่มีความรู้ยอมรับ...

ต่อ ดังนั้นเราทำอะไรพยายามอะไรเขาก็เมิน เวลาถามอะไรก็ไม่ถามเราถามแต่พวกฝรั่ง ตื่นเต้นไปหมด มันอธิบายออกมาไม่ได้หรอก แน่นอน เราคงคิดไปเอง แต่เพื่อนฝรั่งก็รู้สึกแบบนั้น...

มันถึงได้กดดันมาก พอมีสอบ ตารางก็โหดร้าย (แต่ก็ผ่านมันไปแล้ว) ถึงแม้เขาจะบอกว่าทำไม่ได้ก็ไม่เป็นไร เพราะยังไงแค่ให้สอบเฉยๆไม่มผลอะไรอยู่แล้ว แต่มันกดดันมั๊ยล่ะ? นั่นหมายความว่า คุณจะต้องพยายามให้มากที่สุด ให้ตายแม่งไปข้างเลย (หยาบคาย)

อีกทั้งด้วยที่ ถ้าเราทำไม่ได้เลย เขี่ยๆไป หรือ ไม่พยายาม เขาคงดูถูกเสียยิ่งกว่าว่า คนไทยมันก็แค่นั้น ไม่มีความรู้ ไม่พยายาม บลาๆ ยิ่งรับไม่ได้ ในที่สุดก็เข้าสู่ภาวะกดดัน...

มันหลายอย่างที่ผ่านมา มันถ่ายทอดออกมาไม่ได้ แม้จะรู้ว่าควรทำยังไง อะไรควรทำ และไม่ควรมาคิดมากขนาดนี้ แต่ในสถานการณ์นั้น มันมีแต่คำว่ากดดันจริงๆ

ร้องก็ร้องไม่ออก เหนื่อยมาก ต้องนั่งอ่านหนังสืออีก 

"พอเราผ่านช่วงเวลาร้ายๆมาแล้ว และมองย้อนกลับไป จะรู้ว่าเรื่องเลวร้ายนั้นมันเล็กนิดเดียว"

 รู้นะ แต่ ณ เวลานั้นมันจะเครียดอ่ะ ฮ่าๆ

ตอนนั้น ความสุขที่ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว ก็ยิ่งไม่สุขเข้าไปใหญ่ ตอนนั้นพยายามจะหาทางออกให้ตัวเองจริงๆ อยากให้กำลังใจตัวเอง แต่ก็ไม่รู้จะทำยังไง สุดท้ายก็เข้าไปอ่าน "ไร้สาระนุกรม" เล่น - - แต่ก็ดันไปเจอกับ คำคมอะไรเข้า

.

.
จำไม่ได้แล้วล่ะ เหอๆ จริงๆมันไม่เกี่ยวกับการให้กำลังใจเลยนะ ถ้าจำไม่ผิดรู้สึกว่าจะเกี่ยวกับ อย่ามองคนที่ภายนอก แต่เขาพูดลึกซึ้งกว่านั้น

จู่ๆก็เกิดกำลังใจขึ้นมาเฉยเลย (อ้าว) จนถึงตอนนี้ก็ไม่เข้าใจตัวเอง - - แต่ก็ได้กำลังใจมาแล้ว รู้สึกดีอย่างน่าประหลาด จากนั้นเลยไปเปิดหาดูคำให้กำลังใจอื่นๆเพิ่มต่อ

ซึ่งก็เจอมากมาย อ่านแล้วรู้สึกดีจริงๆ ^^ ยังไงก็แนะนำนะ...

แต่คำพูดหนึ่ง คำให้กำลังใจคำหนึ่ง ที่ตราตรึงอยู่ในหัว (ดูมันใช้คำ) เป็นประโยคสั้นๆจากเว็บธรรมะแห่งหนึ่ง เป็นประโยคที่ไม่ว่าจะพูดกี่ครั้ง ก็เติมกำลังใจ และ ความสุขเล็กๆให้ได้ทุกเมื่อ จึงอยากจะเอามาบอกทุกคน เผื่อว่ามันจะทำให้ใครบางคนมีกำลังใจ อยากสู้และมีความสุขต่อไปเหมือนเค้าได้บ้าง..

"ขอให้มีความสุขกับทุกวินาที ที่ ณ เวลานี้ ยังมีลมหายใจ"

.


.


จำไว้นะ ^^ ไม่ว่าจะเจอเรื่องอะไร เจ็บปวดแค่ไหน ก็ขอให้นึกซะว่า อย่างน้อยตอนนี้ก็ยังมีลมหายใจ ได้อยู่ต่อไป เพื่อที่จะแก้ไข และ รอคอยสิ่งดีๆ ไม่สิ และได้สร้างสิ่งดีๆเพื่อตัวเองต่อไปในวันข้างหน้า เพราะฉะนั้น สู้ต่อไปนะ ตอบแทนชีวิตและลมหายใจ ที่จะทำให้เรามีความสุขได้ในวันข้างหน้า...

และวันนั้นปะป๊าโทรมาพอดี ก็เลยร้องหนักเลย เพราะไม่ได้โทรหาใครในครอบครัวเลย คิดถึงนะ คิดถึงมาก แต่ไม่อยากโทร ไม่อยากโฮมซิก แต่ปะป๊าโทรมาเลยร้องเลย ร้องจริงๆ

ปะป๊าก็บอกว่า "พิสูจน์ตัวเองให้เขาเห็น แสดงให้เห็นว่าเราพยายามและมีคุณค่า" นั่นแหละคือ สิ่งที่เราควรทำ และคิดในแง่ดี คิดให้เป็นประสบการณ์ และสุดท้ายตัวเรานี่แหละที่จะภูมิใจในตัวเราเอง

นี่คือสิ่งที่ปะป๊าเตือน และทำให้วันนี้เราตั้งใจเต็มที่ที่จะ พิสูจน์ให้ทุกคนเห็น ว่าเรา พยายามและไม่ได้หนีความอ่อนแอของตัวเอง สุดท้ายเราก็ผ่านวันนี้มาได้ ^^ ขอบคุณมากนะ จริงๆ ถ้าป๊าอ่านก็ไม่ต้องมาพูดเรื่องนี้กันอีกนะ เขิน ฮ่าๆ

.

.

เรื่องทั้งหมดก็เป็นแบบนี้แหละ อาจจะเข้าใจยาก เพราะที่เขียนออกมาเป็นความรู้สึกล้วนๆ มนุษย์นั้นยากแท้หยั่งถึง เพราะงั้นไม่ต้องพยายามไปเข้าใจกับสิ่งที่เค้าเขียนก็ได้นะ ^^ เพียงแต่ว่า ถ้าได้อะไรบ้างจากสิ่งที่เราพบ เราก็ดีใจ ^^

อ้อ บอกทิป หลังจากร้องไห้หนักเสร็จก็ตัดสินใจนั่งสมาธิที่ไม่ได้นั่งมาสองเดือนล่ะ รู้สึกดีขึ้นมากเลย ใครคิดไรไม่ออก หาทางออกไม่ได้ก็นั่งสมาธิซะนะ เห็นงี้ก็เหอะ เค้านั่งบ่อยนะเออ กร๊ากกก =w=b

.

.

.
มีแต่เรื่องปวดหัว ชวนอ้วก บลาๆ =////= จริงๆมีอีกนะ (ทุกทีอ่ะ) แต่ลืมแล้ว ช่างเหอะ ฮ่าๆๆๆๆ


บรรยากาศของโรงเรียน กับ ทางกลับบ้าน!!!!

ก่อนจะมาเริ่มโชว์ของดี? อ๊ะๆๆๆ ทำไมต้องย้ำว่า เป็นทางกลับบ้าน!? ไอทางไปทางกลับมันคนละทางหรอ? แหงดิ คนมันฉลาด =3= (ป่าวอ่ะ ขากลับมาอีกทางมันเป็นทางลงเขา สบายดี กร๊าก)

รูปนี่ถ่ายมาตั้งแต่อาทิตย์ที่แล้วนะเนี่ย เหอๆ พอนั่งนึกว่า ฤดูใบไม้ร่วงจะหมดแล้ว ก็เลยอยากรีบถ่ายเก็บไว้ ^^


เริ่มแรก...รูปนี้มันตรงไหนฟระ!!! ToT!!

ตรงนี้สวยมากเลยย แสงกำลังดี >< อ้อ สะพานนี้เป็นประตูหลังโรงเรียน ม.ต้นล่ะ~~

ที่ดีเดียวกับข้างบน แต่สวยกว่า อ๊ากก แสงทำให้ต้นไม้สวยมากกก ชอบตรงนี้มากเลย >< แต่นะ เกลียดตรงนี้ที่สุดเหมือนกัน - - เพราะเวลาเลิกเรียน เด็กแม่งชอบยืนออกกันเต็มถนน เดี๋ยวปั๊ดชนแม่ง - - บางคนนะ กริ่งก็แล้ว จนล้อจักรเชียดกระเป๋าแม่งยังไม่รู้สึกตัวเลย - - พอเราแหลมหน้าออกมาได้ แม่งก็หันหน้ามามอง เด็กเ_ร - -*!

ถนนเส้นนี้สวยมากกก แต่ใบไม้เริ่มร่วงหมดแล้ว~

สวยใช่ม๊ายยย!! จะบอกว่าสวยมากกกกกกกกก แต่เหม็นโคตรรรรรรรรรรรรร มันคือต้นไรไม่รู้กลิ่นเหมือนกลิ่นหมาอ่ะ - -! จริงๆนะ! ทรมาณใจมาก - -

ที่เดียวกับสองรูปข้างบน ขี่ไปเหม็นไป สวยไป เฮ้อ - - 

ทางลงเขาหน้าโรงเรียน กร๊ากกก ดูแบบนี้เหมือนถนนปกติเลยแฮะ ทั้งๆที่ชันมากแท้ๆ - -

ถนนสายเหม็นหมา เอ๊ย! ถนนโรแมนติกยามพลบค่ำ~ (ล้อเล่น สี่โมงจะห้าโมงต่างหาก - -)
 มีรูปนี้หลุดมาเป็นทางขาไปโรงเรียน อิอิ อันนี้ก็ชันมากกกกกก แต่รูปแลดูปกติ หงุดหงิดใจ - - ตอนเช้าเป็นอะไรที่หนาวมาก จริงๆมันก็ไม่หนาวขนาดนั้นนะ (ขนาดไหนล่ะ) แต่พูดหายใจเป็นควันเลยอ่ะ - - โดยเฉพาะเสาร์ที่ผ่านมา ตกใจ กร๊ากก ควันนี้ไหนวะ - -*?

พอดีกำลังหงุดหงิดไง วันเสาร์ต้องตื่นไปโรงเรียนไปสอบแค่ ครึ่งชั่วโมง!! - -*! ไม่หงุดหงิดก็แปลกแหละ เลยฟืดฟัดๆ? ควันที่ไหนลอยมาตกใจ อ๋อ หนาวจนพูดเป็นควันนี่เอง กร๊ากกกกกก

แต่นะ มันแค่ราวๆ 7-8 องศาเอง ไม่น่ามีควันเลย (เอง?) ตอนนี้อยู่นี่ เห็น 17 องศาก็ดีใจแล้ว อุ่น - -


.

.
อ่ะ ศุกร์ที่แล้วได้ดูโชเนนครั้งแรกที่มาอยู่โอซาก้าด้วยแหละ อ๊ากกก!! พรหมลิขิตมากกกก!!! พอดีนั่งว่างๆเปิดหนังสือพิมพ์ดูเล่น (อ่านไม่ออก) ที่หนังสือพิมพ์จะมีตารางทีวีด้วยไงทุกวัน (ถึงว่า พวก TVlife TVguide ขายไม่ค่อยออก กร๊าก) ดันไปป๊ะเท่งทึงกับโชเนน! อ๊ากกก!!!

ดีใจจจ ToT! จริงๆไอไอเพื่อนที่โรงเรียนก็เคยบอกนะ แต่ไม่เคยหาเจอ TT ในที่สุดก็ได้ดู แต่เพราะเป็นตารางพิเศษ อาทิตย์ที่แล้วกับอาทิตย์ก่อนนู้นเลยมีโชเนนเทปเก่ามาฉาย ก็ไม่เก่ามากอ่ะของเดือนที่แล้ว ฮิฮิ แต่ก็ทำให้รู้ว่ามีวันไหน เวลาไหนที่คันไซแล้ว อาทิตย์นี้จะรอดู อิอิ =w= 

YanYan ก็มีนะ แต่เป็นวันอาทิตย์ เจ็ดโมงเช้า ให้ตายเหอะ - - โหลดเหมือนเดิมละกัน เหอๆๆๆ


ถึงขั้นถ่ายรูป กร๊าก จากนั้นมาก็แย่งหนังสือพิมพ์มาจังมาดูตารางทีวีทุกวันไป เอิงเอย~ =_=b


Hey!say!7 Abake!! ไม่ได้อยากถ่ายอิโตะนะเนี่ย กร๊ากกก 

บ้านนี้ใหญ่ไฮโซก็จริง คงมีแค่ทีวีทั้งที่คิดว่าไม่เข้ากันเลย เหอๆๆ - -


.

.

อ๊ะ ลืมไป วันเสาร์สอบเสร็จ ไม่มีคนอยู่ข้างนอก (เพราะปีสองคนอื่นต้องสอบต่อ) เราเลยได้โอกาสแอบถ่ายโรงเรียน อิอิ (แอบ?)


รูปผิดสลับตำแหน่งกันหมดแล้ว กร๊าก เอ๊อ ช่างเต๊อะ เริ่มด้วย หมายเลขจักรยานเค้า สามารถไปตีเลขเด็ดได้ =w=b แบ่งกันด้วยล่ะ

โรงจักรยานที่เงียบเหงา?

เดินถอยหลังออกมานิดจะเป็นเป็นเช่นนี้...

ทางลงไปโรงจักรยานที่รัก~ (ชอบทางนี้มาก เพราะถ้าเดินมาทางนี้นั่นหมายความว่าจะได้กลับบ้านแล้ว - -!)

พอโผล่ออกมาจากบันไดเมื่อต๊ะกี้ ก็เป็นทางเดินไปตึกเรียนล่ะ สวยมั๊ย~~~

อันนี้มุมมองขาออก~~ สวยเนอะๆๆ ><

จะว่าไปไอต้นนี้ใบมันเหมือนไอต้นเหม็นเหมือนหมานั่นเลยนะ แต่เตี้ยกว่า ไม่มีกลิ่นด้วย สงสัยคนละพันธุ์ - -

ตึกที่ดูเหมือนอู่ซ่อมรถนั้น คือสถานที่ตั้งของล็อกเกอร์ของแต่ละชั้นปีล่ะ~

ทางไปโรงยิมกับห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า จริงๆมันก็ทางเดียวกันกับไอเมื่อกี้แหละ ฮ่าๆ

เข้ามาด้านใน สลับไปนิดแทนที่จะไล่เข้ามาเรื่อยๆ ช่างเห๊อะ นี่ป้ายห้องเค้า ฮ่าๆๆๆ ichi nen go gumi ปีหนึ่ง ห้อง ห้า

ระเบียงทางเชื่อมไปตึกอื่นๆ มันเลยกลายเป็นตึกเดียวกันหมด (อ้าว)

ระเบียงหน้าห้อง (ทำไมรูปมันสลับมั่วหมดเลยฟระ) 

ห้องเรียนเค้า!! เหมือนในหนังเลยใช่มะ ฮ่าๆๆ

นี่ระเบียงเดียวกันแต่เป็นชั้นหนึ่ง~~

ล็อกเกอร์!!! ลืมถ่ายล็อกเกอร์ตัวเองอ่ะ เหอๆๆๆ อ้อ ที่ปิดเนี่ยเพราะวันนั้นเป็นวันเสาร์นะ เหอๆ เค้าเข้าจากประตูปีสองอ่ะ 

ทางเดินไปโรงอาหาร ติดกับตึกปีหนึ่ง โชคดีๆ ฮ่าๆ อ้อโรงอาหารกับห้องเปลี่ยนชุดพละ ที่เดียวกัน เลยสบายปีหนึ่งเลย กร๊ากก
 .


.
.
อ้าวหมดแล้วอ่า - - ก็นะ รูปมันมั่วๆงงๆ ฮ่าๆ ไว้จะถ่ายมาอีกละกัน พอดีใช้มือถือถ่ายมันไม่่สะดวก อิอิ ><

วันนี้หมดเรื่องเล่าแล้ว ไปก่อนละกัน เหอๆ

จะว่าไปมีทั้งดราม่าทั้งต๊องเนอะ - -

วันอาทิตย์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

หนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมา /// จดหมายถึง JUMP /// ไปร้านอาหารไทย

อาทิตย์ที่ผ่านมามีแต่เรื่องไม่ดีทั้งนั้นเลย...ทำเอาจิตใจตกต่ำจนเป็นโฮมซิกกลายๆอีกแล้ว...

.


.


.

เริ่มตั้งแต่วันจันทร์เลยละกัน วันนั้นมีเรียนครึ่งวัน ครึ่งวันบ่าย นักเรียนทุกคนก็ออกไปดูหนังกัน ฮ่าาๆๆๆ ที่สถานีไม่ไกลจาก โรงเรียนนักน่ะ เป็นการเรียนรู้ 

มันเป็นหนังเก่า เกี่ยวกับคนเกาหลีกับคนญี่ปุ่นน่ะนะ แบบ เป็นหนังที่หลอนมาก - - แถมเป็นหนังเก่าด้วยไง เวลาเราดูพวกหนังเก่าๆมันจะดูเศร้าๆเหงาๆใช่มะ TT เกือบแย่แน่ะ แงๆ 

ส่วนที่ว่าหลอน ก็ไม่ใช่ว่ามันเป็นหนังผีไรหรอก คือแบบ มัน งงๆ เข้าใจยาก แปลกๆไงไม่รู้ ถามเพื่อนแต่ละคนไม่มีใครเข้าใจซักคน เหอๆๆ - -

ช่างเหอะ เรื่องหนังน่ะ - - เพราะหลังจากดูหนังเสร็จ ก็ไปเที่ยวกับเอริริน แล้วก็จูริจังต่อ~~ ไปคาราโอเกะกันล่ะ! พึ่งเคยไปครั้งแรกเลยนะเนี่ยยยย ><! (ที่ญี่ปุ่น)

เป็นอะไรที่ตระการตามาก เหอๆๆ แบบแหล่มเจ๋ง สุดๆ =_=b แต่ว่า เซ็งตรงที่ อุตส่าห์เลือกแบบอันลิมิต แต่ดันอยู่ได้แค่ ชั่วโมงเดียว เพราะเด็กไม่บรรลุนิติภาวะห้ามอยู่เกิน หกโมงเย็น T^T!! เสียดายตังค์เว้ย!!!!

แต่กินน้ำ (Drink Bars) ไปคุ้มเหมือนกัน ร้องก็เยอะ กร๊ากกก เก็บเกี่ยวๆ =___,=b 



บรรยากาศหน้าเคาท์เตอร์ เป็นไงดูดีมาก ฮ่าๆ ที่เห็นรูปแดงๆข้างบนน่ะ นิโนะ วง อาราชิ นะ ฮ่าๆๆ ตอนนี้ ป๊อกกี้ที่นิโนะ เป็นพรีเซ็นเตอร์กำลังดังมาก =_=b แถมดูเหมือนร้านนี้ (ทุกสาขา) จะมีสัญยิงสัญญากับบริษัทป๊อกกี้เลย มีป๊อกกี้เต็มร้าน รวมถึงเมนูของกินด้วย ฮ่าๆๆ

ราคา มีหลายแบบ เหอๆ จริงๆถูกมากนะ แต่เห็นเพื่อนบอกว่ามีถูกกว่านี้ =w=b เข้าเจ้าเลือก 500 เยน เป็นแบบฟรีไทม์ แล้วก็มีดริงค์บาร์ฟรีด้วยย แต่แม่ง อายุไม่ผ่าน เลยอยู่ได้แค่ หกโมง T^T เซ็งๆๆๆ!



นี่หน้าตาดริ๊งบาร์ กินไปสามแก้วเองมั้ง เหอๆๆ =3= แต่ช่างเห๊อะ ถือว่ายังดี ครั้งแรกๆ ครั้งหน้าจะรีบมาให้เร็วกว่านี้ - -*!

วันนั้นร้องเพลงไรไปบ้างหว่า... เริ่มแรกก็ OVER , Kataomoi , Magic power , School days แล้วก็ร้อง Arashi กับจูริจังล่ะ ฮ่าๆๆ เพลงที่เอริรินร้องแหล่มก็จริง แต่ไม่รู้จัก เลยดูอย่างเดียว - - เหอๆ

.

.

.
อ่านๆดู เอ๊ะ แล้วมันซวยตรงไหน? เดี๋ยวดิ  - -* นั่นแหละ... หลังจากออกจากร้านคาราโอเกะแล้วกำลังแยกย้ายกลับบ้านกันนั้น ก็ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า....! เฮ้ย! สมัคร Johnny's Family Fan Club ได้แล้วนี่หว่า!!! คือระหว่างทางกลับ คุยกับเอริรินเรื่องที่เอริรินอยากเข้าแฟนคลับของวงไรซักวง เลยคิดขึ้นมาได้อ่ะ - - ลืมไปเลย...

เพราะว่าเปลี่ยนบ้านแล้ว แถมดูทีถ้าว่าจะได้อยู่ตลอด โฮสก็สนิทกันแล้ว เลย สมัครดีกว่า~ กลับถึงบ้านก็เข้าไปเช็ควิธีการในเว็บ...

วันนั้นแหละที่นึกขึ้นได้ว่า เป็นวันครบรอบซีดีเดบิวต์จัมพ์ แล้วก็ รู้สึกตัวว่า รูปริวหายไปจากไซต์แล้ว...

แย่สุดๆเลย กำลังตื่นเต้นที่จะได้สมัครซักที กลับกลายเป็นว่าทุกอย่างดับวูบ ร้องไห้ก็ร้องไม่ออกอ่ะ จริงๆ แต่ตัวเองพอเห็นแล้วกลับไม่ตกใจเท่าไหร่ ทำไมไม่รู้...รู้สึกแค่ว่ามันไม่มีอะไรซักหน่อย เขาคงแค่อัพเดตรูป

แต่เพราะทุกคนมืดมนกัน เราก็เลยอดจะช็อกไปไม่ได้เหมือนกัน....ก็รู้นะว่ามัน มีโอกาสเกือบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ก็ยังไม่อยากจะเชื่อแบบนั้น ตราบใดที่ยังไม่มีประกาศอย่างเป็นทางการออกมา... 

จากนั้นก็ตัดสินใจ จะเขียนจดหมายทันที...

วันอังคาร...ถัดมา ก็คุยกับอัยอัย เพื่อนร่วมห้องที่ชอบเรียวจัง ตอนแรกก็ดราม่ากัน ไปๆมาๆก็คิดแง่ดีกันขึ้นได้แล้วรู้สึกดีขึ้น ว่าเรายังเชื่อว่าริวยังอยู่ ^^! จากนั้นเราก็วางแผนจะสมัครแฟนคลับต่อ โดยอัยอัยจะช่วยสมัครให้ ^w^

วันนั้นจึงต้องวางแผนการ กลับบ้าน ไปไปรษณีย์จะไปหยิบใบสำหรับจ่ายเงินการสมัคร แล้วก็กลับไปเขียนจดหมายหาจัมพ์ และ วันพุธเช้าก็จะไปส่งจดหมาย พร้อมกับ เอาใบจ่ายตังค์ไปกรอกกับอัยอัยที่โรงเรียน

แต่ก็แม่ง! - - ดันหยิบใบผิด! แถมคืนนั้นก็เขียนจดหมายไม่เสร็จด้วย! แผนการทุกอย่างเลยผิดหมดเลย ToT!!!!! คือ เข้าใจป่ะ อุตส่าห์วางแผน แล้วก็รีบกลับบ้าน รีบปั่นจักรยานอีก เพราะไปรษณีย์ปิด 5 โมง แต่โรงเรียนเลิกเกือบ 4 โมงครึ่ง T^T พอสุดท้ายล้มเหลวหมดแล้ว อยากร้องไห้อ่า แงๆ

อีกอย่าง จดหมาย ยังไงก็อยากจะส่งให้เร็วที่สุด T^T เพราะไม่รู้จะเกิดไรขึ้นอีกบ้าง แงๆ อย่างน้อยได้ส่งให้มันอุ่นใจว่า เราได้ทำอะไรบ้าง... เรื่องสมัครแฟนคลับ เพราะสัญญากับอัยอัยกันไว้แล้วว่าจะเขียนด้วยกัน ตั้งหน้าตั้งตารอ สุดท้ายก็ไม่ได้เขียนแล้วมันเซ็งอ่า T^T 

ฟังดูไร้สาระนะ แต่เพราะเป็นคนจริงจังกับเรื่องแบบนี้ ถ้าคิดจะวางแผนแล้ว สุดท้ายทำไม่ได้ตามแผน ก็จะซึมไปเลยล่ะ T^T

.

.

.
ต่อมา วันพุธ... ตอนเช้าไม่ได้ไปโรงเรียน ไปตอนบ่ายแทน เพราะตอนเช้าท้องไม่ค่อยดี T^T เลยได้มีโอกาสเขียนจดหมายต่อ แต่ก็ไม่เสร็จ - - เพราะมัวแต่คุยกับยูเมะอยู่ เหอๆ (ยูเมะเป็นเพื่อนสนิทเค้าล่ะ เป็นคนญี่ปุ่นที่ไทย แต่ตอนนี้เราแยกย้ายกันมาเรียนที่นี่ ส่วนยูเมะไปอเมริกา เวลาเลยแตกต่างกัน ^^;)

กลางวันเป็นคาบว่าง เลยไปนั่นเช็คข่าวในเว็บจอร์นต่อ สุดท้าย แม่งก็ประกาศคอนเสิร์ตอีก! - -*! หงุดหงิดมาก จะเอาอะไรนักหนา ลบน้องเราออกไปเฉยๆไม่พอ ยังจะมาประกาศคอนเสิร์ตตอกย้ำอีก TT เจ็บใจ๊!!!! โวยวายไปพักนึงก็ได้เวลากลับบ้าน - -

กลับมาเลยรีบตั้งใจจะเขียนจดหมายต่อให้เสร็จ (พูดไป มันก็หมายถึงแต่งจดหมายให้เสร็จนั่นแหละ แต่ยังไม่เขียน - -) ในที่สุดก็เสร็จซักที!

แต่ดูเหมือนว่าวันนั้น ข่าวที่หนังใหม่เรียวจัง ต้องแสดง มีอะไรกันกับผู้หญิงที่เล่นบทเป็นแม่  - - จะรุนแรงขึ้น หมายถึงว่า ข่าวเรื่องนี้จริงนั่นแหละ หนังจะออกเดือน มกรา...

ถามว่า รู้สึกไงบ้าง...เฉยอ่ะ เฉยมาก... คงเพราะอารมณ์ไม่ค่อยดีหลายๆเรื่อง แถมยังช็อกเรื่องริวอีก เลยไม่สนเรื่องอื่น ยิ่งเรื่องเรียวจังเป็นแค่การแสดงหนังยิ่งไม่สนเข้าไปใหญ่... โอเคยอมรับว่าในใจมันรับไม่ได้นิดๆ แต่มันก็ยังดีกับแสดงฉาก อะจึ๊ยๆ กับ ผู้หญิงอายุรุ่นราวคราวเดียวกันอ่ะนะ - -*

แค่นั้นยังไม่พอ วันศุกร์ จริงๆงาม เพื่อนรักจะมาเที่ยวบ้าน ก็ไม่สบาย เลยกลายเป็นว่ามาไม่ได้อีก T^T ความหวังเดียวที่จะทำให้ชุ่มใจขึ้นมาได้หายไปแล้ว Y_Y จบกันชีวิต เฮ้อ...

วันพฤหัส หลังจากห่อเหี่ยว อดเที่ยวกับเพื่อน อดสนุกแล้ว ตอนเช้าตั้งใจจะไปหยิบใบจ่ายเงินใหม่ที่ไปรษณีย์ก่อนไปโรงเรียน แต่แม่งยังไม่เปิดอีก! T^T!!! แงงงง!!!! ทำไมมันซวยอย่างงี้!!! ตอนเย็นมีชมรมอีก ToT อดไปไปรษณีย์ตอนเย็นอีกแล้ว ฮือๆๆ!!!

แถมวันนั้นยังได้รู้สึกตัวว่าต้องเตรียมตัวอ่านหนังสือสอบของปี 2 ที่ต้องสอบอาทิตย์หน้าแล้ว ก็ยิ่งเครียดเข้าไปใหญ่ ขอบอกจริงๆว่าวันนั้นแย่มาก T^T เกือบร้องไห้แล้วอ่ะ ฮือๆ ตอนเย็นเข้าชมรม ตอนนั้นลืมไปว่าควรจะกลับไปอ่านหนังสือ ก็แบบ สนุกดีแหละ แต่ส่วนใหญ่ก็เหงาๆอ่ะนะ อากาศก็หนาว มืดก็มืด จิตใจยิ่งตกต่ำใหญ่ กลับมากว่าจะกินข้าวอาบน้ำก็ดึกแล้ว สุดท้ายก็อดเขียนจดหมาย อันนี้ยิ่งเจ็บปวดใหญ่ แถมยังนึกขึ้นได้ว่า ลืมอ่านหนังสืออีก เลยเสียใจกับเวลาที่ไปยืนเบื่ออยู่ที่ชมรมตั้งสองชั่วโมง เฮ้อออออออออออออออออ พอกันที T^T

วันศุกร์ก็รู้สึกดีขึ้นบ้างแล้ว แต่ก็ยังเครียดเรื่องสอบอยู่ต่อ เพราะต้องเรียนเองใหม่หมดเลย เพราะไม่เข้าใจเหมือนชาวบ้านเขา บวกกับเข้าเรียนกลางคัน เลยมีหลายบทที่ตัวเองไม่ได้เรียน แบบเครียดอ่ะ จริงๆ ตอนอ่านหนังสือตอนกลางคืนนี่แบบ เป็นไรที่เหนื่อยมากจริงๆ T^T แต่เพราะพรุ่งนี้ หรือ วันนี้ จะได้ไปช็อปปิ้งกับโฮส (เพราะเพื่อนทิ้งหมด TT) กับ จะได้ไปกินอาหารไทยเลยกระชุ่มขึ้นมาบ้าง

อ้อ...วันศุกร์นัดกับ อัยอัย แล้วก็มาโกะ (แฟนจัมพ์อีกห้องนึง) ไปงานจับมือ Sexy Zone กันล่ะ เหอๆ จริงๆไม่ได้อะไรเท่าไหร่อ่านะ แต่เพื่อนชวน แถมไหนๆก็ไหนแล้วๆ =w= อีกอย่าง อย่างน้อยๆไอพวกนั้นมันก็เคยเจอ เคยสัมผัสจัมพ์มาล่ะวะ! T^T! (เกี่ยวไร?)

เอ้อ แล้ววันศุกร์ก็เขียนจดหมายเสร็จด้วยล่ะ ถึงจะลืมส่งอีกแล้วก็เหอะ - - พรุ่งนี้ต้องไปหยอดตู้ให้ได้!!!!!

.

.

.
จดหมายเค้าเขียนสามแผ่น แผ่นแรก เขียนเรื่องตัวเองแบบเนียนๆ หลังจากนั้นก็เรื่องริว แต่จะขอพูดแค่เรื่องริวนะ เรื่องอื่นอาย ^////^

.

.


"เกี่ยวกับเรื่องของริวทาโร่คุง...เราไม่รู้ ว่า JUMP นั้นได้รับจดหมาย และ ของที่แฟนไทยได้ส่งไปให้หรือเปล่า..แม้ว่านั้นอาจจะมองดูเหมือนเป็นสิ่งไร้สาระ แต่ทุกคนก็ตั้งใจทำมันขึ้นมาอย่างสุดความสามารถค่ะ หรือทั้งจดหมายเอง ทุกคนก็ตั้งใจเขียนกันเป็นภาษาญี่ปุ่นอย่างสุดความสามารถเช่นกัน แต่ทว่า สุดท้ายแล้วทันเกิดอะไรขึ้นคะ TT ทั้งๆที่วันที่ 14 ที่ผ่านมา เป็นวันครบรอบซีดีเดบิวต์ของจัมพ์แท้ๆ แต่ทำไมวันนั้น รูปของริวทาโร่คุงในโปรไฟล์จัมพ์ของเว็บจอร์นนี่ถึงได้หายไปล่ะคะ? TT มันทำให้รู้สีกช็อกมากเลยค่ะ 
ทั้งๆที่ ที่จริง ยังไม่มีประกาศอะไรออกมาจากทางค่ายแท้ๆ แต่ตอนนี้แฟนๆก็เป็นกังวลกันมากแล้วล่ะค่ะ ไม่ใช่เพียงแค่ไทยอย่างเดียว แต่แฟนจัมพ์ของจัมพ์ที่มีอยู่ทั่วโลกทุกคนนั้นก็มีความคิด(กังวล)แบบเดียวกันนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่วันที่ 27 เดือนมิถุนาที่ผ่านมานั้น แฟนๆทุกคนต่างเปิดเช็คโปรไฟล์จัมพ์ในเว็บไซต์ของจอร์นนี่(ว่ามีริวยังอยู่มั๊ย)อยู่ทุกวันเลยล่ะ ทุกคนต่างก็เชื่อและเฝ้ารอวันที่ริวทาโร่คุงจะกลับมาในฐานะสมาชิกของจัมพ์อีกครั้งอยู่เสมอเลยค่ะ...แน่นอน พวกนั้นก็อยากจะให้ความสำคัญกับความรู้สึกของริวทาโร่คุงมากที่สุด ถ้าเกิดว่าเจ้าตัวมีความรู้สึกอยากเลิกจริงๆขึ้นมา พวกเราแฟนคลับทุกคนก็ยอมรับค่ะ.. แม้ว่าจะเสียใจ แต่ถ้ามันเป็นหนทางที่เจ้าตัวเลือกเองแล้ว ทุกคนก็พร้อมที่จะสนับสนุนเต็มที่ แต่ทว่า หากว่า คิดแบบนั้นจริงๆ หากว่าตัดสินใจอย่างนั้นจริงๆ...ก็อยากจะให้บอกแฟนๆทุกคนอย่างตรงไหนตรงมาด้วยเถอะค่ะ! อย่าหายไปเงียบๆแบบนี้เลย T^T

นี่เป็นสิ่งที่แฟนๆอยากจะบอกกับจัมพ์มากที่สุดค่ะ ทั้งๆที่จริงๆแล้ว เจ้าตัวเองอาจจะไม่มีความคิดแบบนั้น...ทางบริษัทเองก็ยังไม่คิดไปขึ้นขนาดนั้น การที่ส่งจดหมายเสียมารยาทแบบนี้มาในครั้งนี้ ต้องขออภัยด้วยค่ะ เรามีความคิดแต่เพียงแค่อยากจะสร้างความมั่นใจให้กับตัวเองเท่านั้น..ขอโทษนะคะ"

อาจจะแปลกๆไปบ้านเพราะอ่านไปพิมพ์ไป ไม่ได้คิดอะไร แค่ก็ราวๆนี้นะ T^T จริงๆมีอีก ไม่ได้เขียนเรื่องนี้อย่างเดียวหรอก เหอๆ เรามีแผนเนียน = =b เพียงแต่ไม่บอก เหอๆ

ครั้งนี้ไม่ได้จะเรียกร้องอย่างคราวที่แล้ว เพียงแต่อยากบอกให้รู้ว่ารู้สึกยังไงก็แค่นั้นเอง...อยากจะบอกว่าอ่านทีไรก็อยากร้องไห้...อย่างน้อยๆครั้งนี้ ขอให้จัมพ์ได้อ่านด้วยเถอะ...และขอให้มันเป็นเพียง สิ่งที่เราคิดกันไปเองเท่านั้น อย่างที่เขียนเอาไว้จริงๆเหอะนะ...

อุตส่าห์เอากระดาษจากไดอารี่มาเขียน หวังว่าคงจะขลังนะ? T^T
.

.

.
พอๆเลิกๆ วันนี้วันเสาร์ ฝนแม่งตกหนัก!!! T^T เลยต้องขี่จักรยานฝ่าฝนออกไปขึ้นรถไฟ แงๆๆ (ก็มันอยากไปเที่ยวนี่นา T^T พอดีโฮสแม่ มีมี่วันศุกร์แกออกไปค้างที่อื่น วันนี้เลยไปนัดเจอกันในเมืองแทน...) อันที่จริงใส่เสื้อกันฝนนะ แต่ว่าหากางเกงกันฝนไม่เจอ ท่อนล่างเลยเปียกหมดเลย T^T

เนินเขาก็เยอะ ส่วนที่เป็นหมวกคลุมผมก็เลยเปิดจะหัวเปียก แถมบางทีก็หล่นมาเปิดจนมองไรไม่เห็นอีก โคตรเลยอ่ะ T^T 

ตอนขึ้นรถไฟคนมองใหญ่เลย เหอๆๆ =3= เซ็กซี่ใช่ม้า~~~~?

.

.

.
พอไปถึงอุเมมุระ ก็ไปช็อปปิ้ง!!! คือจริงๆที่ไปวันนี้กะจะไปซื้อของ เพราะเสื้อผ้าไม่อุ่นพอ T^T กับกางเกงยีน (เพราะมันขาด กระซิก) แล้วก็กินอาหารไทย =w=b แต่เพราะตัวเปียก เลยต้องหาซื้อของเปลี่ยนแทน

มีมี่แกก็เลือกให้ใหญ่เลย แกซื้อให้ล่ะ!! ToT!!! มีมี่บอกว่ามันเข้ากันมาก น่ารักมากเลยซื้อให้ล่ะ เย้ =w=v โชคดีมากกกกกก อิอิ >o< หลังจากนั้นก็เดินไปซื้อของกันเรื่อยๆ คือจะเดินไปร้านอาหารไทยแหละ แต่ก็ช็อปไปด้วยไง อิอิ =w= 

ก็ไปสะดุดร้านเค้กสุดหรูเข้า!! มันเป็นสาขามาจากปารีสอ่ะ แพงแน่นอน เหอๆ แต่กลิ่นมันยั่วใจเหลือเกิน เลยตัดสินใจเข้าไปกินกัน กร๊ากกกก
.

.

.
แต่นะโอ้วจอร์จ! มันแพงมาก ToT!!! ตัวเค้กไม่เท่าไหร่ แต่พวกน้ำพวกอย่างอื่นเนี่ย แพงโคตร เหอๆ สองเท่าของราคาปรกติ คิดดู =__,= เป็นบุญมากที่ได้กิน

นี่คือรูปล่ะ~~ อยากจะบอกว่าของมีมี่ มีทองคำเปลวใส่มาด้วย =__,=b


นี่ของเค้า >o<!!!! ชื่อเป็นฝรั่งเศษจำไมได้กร๊ากก แต่อร่อยอ่าาา T^T

อันนี้ของมีมี่~ อิอิ อยากจะบอกว่ามันชิ้นเล็กมากกกกก สองร้อยเกือบสามร้อยบาทอ่ะ ฮ่าๆๆๆ ก้อนนึงประมาณ เค้กชิ้นละสิบบาทบ้านเราที่ขายตามตลาดอ่ะคิดดู =__= 

เอ้อ ของมีมี่เนื้อแป้งเป็นกลิ่นกุหลาบล่ะ =o=b!

.

.

น้ำตาลก้อนยังดูดีเลย? ดูมีราคามากของจริงอ่ะ ฮ่าๆๆๆๆ ต้องรีบใส่ กร๊ากก =3=


.

.

นั่งแช่กันอยู่ตั้งชั่วโมง - - ก็ไปซื้อของต่อ แล้วก็ไปกินอาหารไทย!!!

เชื่อว่าร้าน กรุงเทพล่ะ =w=~ เดินผ่านมาหลายทีแล้วไม่ได้กินซักที คราวนี้ล่ะ >o<!!! อยากจะบอกว่า ร้านนี้กว้างมาก บรรยากาศออกแนวเหนือๆหน่อย แต่โดยรวมก็ภาคกลางแหละ (อ้าว) ฮ่าๆๆๆ แล้วก็ตอนที่ไปไม่มีคนก็จริง แต่ครึ่งร้าน โต๊ะทุกโต๊ะถูกจองไว้เกือบหมด ฮ่าๆๆ ดูก็รู้ว่าอาหารไทยเราเจ๋งแค่ไหน =w=b ที่สำคัญพนักงานที่นี่มีแต่ผู้ชายแล้วก็หล่อทุกคน! =__,=b หล่อจริงๆ หล่อมากกกกก ตกใจ ฮ่าๆๆๆๆ

ใส่ชุดผ้าไหมไทยล่ะ เข้าร้านก็จะพูดว่า "สวัสดีครับ" แว๊กกกกกกกกก ใจละลาย กร๊ากกก =w=b

.

.

เมนู~ ดีใจมากมีภาษาไทยให้อ่านไม่งั้นปวดหัวตาย - -

แก้วน้ำ สิงค์ฮ่า!

จานแรกจัด ทอดมันปลากราย =w=b อร่อยกว่าที่คิด! เค็มไปนิด แต่อร๊อยยอร่อยยย T^T! ราคาประมาณเกือบ สี่ร้อยบ้านเรา เหอๆ

ต่อมาทะเลผัดพริกแกง~ นี่ก็อร่อยมากกกกกก! ราคาเดียวกับทอดมัน =w=b

ข้าวหอมมะลิ ToT!!! อร่อยจัง แงๆๆๆๆๆ นี่จานละ แปดสิบ =_,=

จานสุดท้าย ปูนิ่มผัดพริกไทยทำ กร๊ากกก ที่นี่เมนูปูนิ่มเยอะมาก ทั้งๆที่ไทยหากินยากแท้ๆ - - ราคาก็นะ... ขอคิดตังก่อน... 655 บาท =__=b อร่อยก็จริงแต่แบบราคา กร๊ากกกก

บรรยากาศโซนที่นั่ง~ โต๊ะที่ถ่าย ดูเหมือนจะถูกจองเอาไว้ล่ะ อิอิ

สิงค์ฮ่า นอกร้าน~~

ถ่ายมาจากซองตะเกียบ =w=

สาคู!!


ไอติมกระทิ!!! T^Tv


เห็นรูปในหลวงแล้วดีใจจังอยากร้องไห้ Y_Y คิดถึงเมืองไทย แล้วก็นะ ตอนที่เดินเข้ามาในร้าน ประตูทางเข้ามีเขียนคำว่า "เรารักในหลวง" ตัวเบ้งเอาไว้ล่ะ รู้สึกดีจัง ^_^

สุดท้ายได้คุยกับพี่พ่อครัวคนไทยนิดหน่อย แล้วเราก็จากร้านไป ฮ้า~~ อร่อยมากเลย!!!

.

.

.

หลังจากนั้นตามคำบอกกล่าวของพี่พ่อครัว เราก็เดินไทยมาร์เก็ตกัน แล้วก็ผ่านร้านไทยมากมาย ฮ่าๆๆๆ ดังจริงๆ อาหารไทย =w=b


เป็นร้านเล็กๆ เล็กมากกกกกกกกก แต่มีของขายเยอะมากเลย สนุกดี ><


เจอคนไทยมาซื้อของด้วยล่ะ ฮ่าๆๆๆ หน้าตาดูแบบรู้เลยคนอีสาน =_=b บ่งบอกมาก อิอิ แต่ดีจังได้เจอคนไทยๆ ถึงจะไม่ได้คุยกันก็เหอะ~

.

.

ขากลับก็เดินผ่านร้านอาหารไทยอีกร้านนึง เจ้าของร้านเป็นคุณป้าคนไทยที่แต่งงานกับคนญี่ปุ่น ป้าแกใจดีมากเลย แกบอกว่าทุกวันจะมีเมนูพิเศษ เช่น วันนี้มีก๋วยจั๊บ พรุ่งนี้มีข้าวขาหมูไรเงี้ย อิอิ แกบอกว่า โทรมาถามได้ ถ้าอยากกินก็ให้บอกจะเก็บไว้ให้ ทำนองนี้ แบบซึ้งมาก น้ำใจคนไทย T^T! จะไปแน่ๆ แต่จำทางไม่ได้แล้ว ToT!!!

.

.
แต่คำถามแรกที่ป้าแกถาม...บ้านน้ำท่วมป่าว? กร๊ากกกกกกกก!!!!

.

.
เรื่องเล่าหมดแล้วล่ะ~

อ่ะ นี่เป็นของที่ซื้อมา กางเกง กับ เสื้อกันหนาว เค้าซื้อเองนะ ส่วนกระโปรงกับถุงเท้าโฮสซื้อให้ ^_^V



อันนี้ถ่ายบรรยากาศนัมบะตอนกลางคืนมาฝาก~~ อยากมาล่ะซี้~~


กูลิโกะผู้แสนโด่งดัง~~






 เชื่อเหอะ โอซาก้า อะเมซิ่งกว่าโตเกียวเป็นไหนๆ =w=b

.

.

.

อ่ะ ไปร้าน CD มาเห็นแปะรูปนี้ไว้รีบถ่าย ดีใจมาก เพราะมันเป็น 10 จัมพ์ของเราล่ะ ToT!!! 




ตอนแรกไม่แน่ใจ เห็นแล้วหวั่นๆ ยืนนับดู เห็นครบแล้วรีบถ่ายเลย อิอิ

.


.


.

เอาล่ะ หมดเรื่องแล้ว... ตอนนี้ดีขึ้นแล้วล่ะ แต่ยังรู้สึกแย่ๆอยู่ ยังไงก็สู้ต่อไป! โอ๊วเย!!
.

.


.
จะนั่งภาวนาทุกวันให้ริวกลับมา ^^